###()%&$
'" #!"%
Book Review "Statistics: A Very Short Introduction" 1 Received:August 1, 2013
Piyarat Thampitak2 Accepted: August 8, 2013
Abstract This article intends to introduce the textbook named "Statistics: A Very Short Introduction" written by Hand, David J., and translated by Wiroj Rujijanakul, which aims to exhaustively present the concepts and the usages of modern statistics continually developed from the traditional statistics. This book gives the explanation about the overall concepts and applications of various types of statistics instead of the in-depth details of each statistical calculation. This characteristic makes this book outstanding from the general statistical textbooks which often explain only the concept and method of each statistics in detail. The ignorance of the overall concepts and applications of statistics might bring about the negative attitude to statistics, the anxiety of statistics learning, and also the denial of the usefulness of statistics learning. This book points out the applications of statistics to the data in both daily life and academic contexts with the explicit and various examples, since the author expected to enhance the readers’perception of statistics importance and value to their real lives. This book, therefore, is beneficial in academic research for developing the knowledge about appropriate selection of statistics for the data analysis. Furthermore, it is practically helpful for students, researchers, and ordinary people to utilize statistics more effectively and extensively.
Keywords: statistic, data collection, probability theory, estimation, use of statistics
1 2
Written by Hand, David J., Translated by Wiroj Rujijanakul Lecturer in Behavioral Science Research Institute, Srinakharinwirot University. E-mail:
[email protected]
วารสารพฤติกรรมศาสตร์ เพือ การพัฒนา ปี ที ฉบับที มกราคม !
ลิขสิทธิ%โดย สถาบันวิจยั พฤติกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
'" #!"%
###()%&$
บทวิจารณหนังสือ เรื่อง “สถิติ: ความรูฉบับพกพา”
ปยรัฐ ธรรมพิทักษ
บทคัดยอ บทความนี้มีจุดมุงหมายเพื่อแนะนําหนังสือ "สถิติ: ความรูฉบับพกพา” เขียนโดย แฮนด1 เดวิด เจ. แปลโดย วิโรจน รุจิจนากุล เปนหนังสือที่นําเสนอถึงแนวคิดและการใชประโยชนของสถิติยุคใหมที่เชื่อมโยงมาจาก สถิติดั้งเดิม โดยมีจุดเดนอยูที่การแสดงใหเห็นถึงภาพรวมมากกวาการลงรายละเอียดเชิงลึก เนื่องจากที่ผานมา การ เรียนรูเกี่ยวกับสถิติในชั้นเรียนทุกระดับมักมุงเนนไปที่วิธีการและรายละเอียดของการคํานวณตาง ๆ ซึ่งมักไดรับ การสะทอนกลับจากผูเรียนสวนหนึ่งวามีความซับซอน ยุงยาก ยากตอการทําความเขาใจ และมองไมเห็นประโยชน ที่แทจริงของการเรียนรูเกี่ยวกับวิชาสถิติ แตหนังสือเลมนี้ไดนําเสนอใหเห็นถึงความสําคัญของสถิติในฐานะที่เปน เครื่องมือสําคัญในการศึกษาคนหาความรูความจริง รวมถึงประโยชนตาง ๆ ที่มีตอการดําเนินชีวิตของคนในทุก สาขาวิชาชีพ หนังสือเลมนี้จึงเปนประโยชนทั้งทางดานวิชาการในแงการเลือกใชสถิติในการวิจัยเพื่อสรางองค ความรูไดอยางเหมาะสม เปนประโยชนในทางปฏิบัติใหกับนักเรียนนักศึกษา นักวิจัย และบุคคลทั่วไปในการใช ประโยชนจากสถิติเพื่อตอบสนองตอการดําเนินชีวิตในสังคมในแงมุมที่กวางขวางขึ้นไดตอไป คําสําคัญ: สถิติ การเก็บรวบรวมขอมูล ทฤษฎีความนาจะเปน การประมาณคา การใชสถิติ
E
เขียนโดย แฮนด1เดวิด เจ. แปลโดย วิโรจน รุจิจนากุล อาจารยประจําสถาบันวิจัยพฤติกรรมศาสตร มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
F
วารสารพฤติกรรมศาสตร์ เพือ การพัฒนาปี ที ฉบับที มกราคม !
ลิขสิทธิ%โดย สถาบันวิจยั พฤติกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
###()%&$
'" #!"%
บทนํา ในสังคมปจจุบันนี้ การดําเนินชีวิตในสังคม ส ว นใหญ ข องมนุ ษ ย ล ว นมี ค วามเกี่ ย วข อ งกั บ สถิ ติ ทั้งสิ้น ไมวาจะเปนคําวา “สถิติ” ที่หมายถึง ตัวเลข แสดงขอเท็จจริงใด ๆ หรือขอความแสดงถึงปริมาณ มากนอยของสิ่งตาง ๆ หรือคําวา “สถิติ” ที่หมายถึง วิ ช าทางคณิ ต ศาสตร ที่ ศึ ก ษาเกี่ ย วกั บ วิ ธี ก ารเก็ บ รวบรวมข อ มู ล ด า นตั ว เลขอย า งเป น ระบบ และ สรุ ป ผลด ว ยการวิ เ คราะห ข อ มู ล ที่ ทํ า ให ท ราบถึ ง คุ ณ ลั ก ษณะของข อ มู ล เหล า นั้ น (ลั ด ดาวั ล ย เกษม เนตร1FJJEKทั้งนี้ วิทยาการตาง ๆ ที่มีอยูในปจจุบัน ในหลายสาขาทั้งทางการแพทยยุคใหม การทดลอง ทางวิ ทยาศาสตร ต าง ๆ การทํา งานดา นวิ ศวกรรม สถาป ต ยกรรม เกษตรกรรม อุ ต สาหกรรมอาหาร เศรษฐศาสตร การเงิน การบัญชี หรือการวิจัยดาน สังคมศาสตรและพฤติกรรมศาสตรใด ๆ ก็ตาม ลวน แต ต อ งใช ส ถิ ติ เ ข า มามี ส ว นในการศึ ก ษาและการ ประยุกตใชทั้งสิ้น เพื่อใหเกิดผลผลิตและผลลัพธที่มี ประสิทธิ ผลในการดําเนินชีวิต โดยเฉพาะในแงของ นั ก วิ จั ย เชิ ง ปริ ม าณที่ ต อ ง การศึ ก ษาเกี่ ย วกั บ ปรากฏการณ ใ นสั ง คมที่ นั บ วั น จะมี โ ครงสร า งของ ข อ มู ล และเหตุ ก ารณ ที่ ซั บ ซ อ นมากขึ้ น กว า ในอดี ต นั ก วิ จั ย พบว า มี ตั ว แปรจํ า นวนมากที่ เ กี่ ย วข อ งกั บ ป ญ หาการวิ จั ย ที่ ต อ งการศึ ก ษา การใช ส ถิ ติ แ บบ ดั้ ง เดิ ม ที่ มี เ พี ย งสองตั ว แปรอาจไม เ พี ย งพอต อ การศึกษา จึงตองเลือกใชสถิติที่ซับซอนมากขึ้น ไดแก การวิเคราะหหลายตัวแปร (LMNOPQRSPROTRURNVWPWK Xสุวิมล ติรกานันท1FJJYKนอกจากนี้อาจมีประเด็นที่ ต อ งคํ า นึ ง ถึ ง เพิ่ ม เติ ม ในเรื่ อ งระดั บ โครงสร า งของ ขอมูลที่เปนระดับชั้นลดหลั่นกัน โดยขอมูลมีการซอน และอยูภายใตโครงสรางที่ใหญกวา เชน การศึกษาตัว แปรเกี่ยวกับพนักงานและหนวยงาน ทําใหตองอาศัย วารสารพฤติกรรมศาสตร์ เพือ การพัฒนา ปี ที ฉบับที มกราคม !
สถิ ติ ที่ เ รีย กว า การวิ เ คราะห พ หุ ระดั บ (LMNOPNTQTN RURNVWPWK เขามาชวยในการวิเคราะหขอมูลและหา ขอสรุป (ศิริชัย กาญจนวาสี 1FJJZKสถิติเหลานี้จะมี ความซับซอนในการทําความเขาใจและการศึกษาที่ มากขึ้นสําหรับผูใชงาน สงผลใหการเรียนการสอนใน ปจจุบันมีการบรรจุวิชาสถิติลงไปอยางแพรหลายไม วาจะเปนหลักสูตรทางดานวิทยาศาสตร สังคมศาสตร และพฤติกรรมศาสตร อย า งไรก็ต าม สิ่ ง ที่มั ก ได พ บอยู บ อ ยครั้ ง คือ นิสิตนักศึกษาหรือผูเรียนสถิติรวมทั้งบุคคลทั่วไป มั ก มี เ จตคติ ใ นทางลบต อ สถิ ติ โดยมั ก ได รั บ การ สะทอนจากผูเรียนสวนหนึ่งวามีความซับซอน ยุงยาก ยากตอการทําความเขาใจ และมองไมเห็นประโยชนที่ แ ท จ ริ ง ข อ ง ก า ร นํ า ส ถิ ติ ม า ใ ช ป ร ะ โ ย ช น ใ น ชีวิตประจําวันนอกเหนือไปจากการทํางานทางดาน วิชาการเทานั้น นอกจากนี้ ผลการวิจัยจํานวนหนึ่ง พบว า กลุ ม นิ สิ ต นั ก ศึ ก ษาทั้ ง ระดั บ ปริ ญ ญาตรี แ ละ ระดับบัณฑิตศึกษามีความวิตกกังวลตอการเรียนวิชา สถิติ (บรรจงเศก ทรัพยโสภา1FJJEKและมีงานวิจัย ที่พบวาตัวแปรเชิงสาเหตุที่สําคัญตัวแปรหนึ่งที่มีผล ตอความวิตกกังวลในการเรียนวิชาทางคณิตศาสตร คือ ตัวแปรเจตคติที่ผูเรียนมีตอวิชาทางคณิตศาสตร (เบ็ญจะ นิสสัยสุข1FJZ\]EKในความเปนจริงแลว สิ่งเหลานี้อาจเกิดขึ้นจากการที่ในอดีตที่ผานมา การ จัด การเรี ย นการสอนเกี่ ย วกั บ วิ ช าสถิ ติ ใ นชั้ น เรี ย น เกือบทุกระดับมักมุงเนนไปที่วิธีการและรายละเอียด ของการคํ า นวณต า งๆ เป น หลั ก โดยอาจไม ไ ด ใ ห ความสํ า คั ญ กั บ การเชื่ อ มโยงให เ ห็ น ภาพรวมของ พั ฒ นาการทางสถิ ติ ที่ เ กิ ด ขึ้ น ว า มี จุ ด ตั้ ง ต น อย า งไร สถิ ติ ที่ มี ค วามซั บ ซ อ นมากขึ้ น นั้ น เกิ ด จากอะไร สอดคลองไปกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปอยางไร บาง ทําใหเกิดความจําเปนที่ตองพัฒนาสถิติยุคใหมที่ ลิขสิทธิ%โดย สถาบันวิจยั พฤติกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
'" #!"%
ซับซอนมากขึ้นมารองรับเพราะอะไรทําใหผูเรียนมอง ไม เห็ น ความจํ า เป น และมองไม เ ห็น ความเชื่ อ มโยง ระหวางสถิติกับเรื่องราวตาง ๆ ที่หมุนอยูรอบตัวเขา ซึ่ง จริ ง ๆ แลว ผูเ รี ยนตา งก็ สั มผั สเกี่ย วขอ งกั บสถิ ติ ตาง ๆ อยูบอยครั้ง ขณะที่ตํ าราเกี่ยวกับสถิ ติสว น ใหญ จ ะแยกตามระดั บ ของสถิ ติ แ ต ล ะกลุ ม อย า ง ชัดเจน โดยแยกตามประเภทความซับซอนของสถิติ เชน ตําราสถิติเบื้องตน ตําราสถิติหลายตัวแปร ตํารา สถิ ติ พ หุ ร ะดั บ เป น ต น ซึ่ ง การเรี ย นการสอนสถิ ติ สําหรับผูเรียนแตละกลุมก็จะแยกกันไปตามสถิติแต ละประเภทเหล า นี้ เ ช น กั น ทํ า ให ผู เ รี ย นในระดั บ บัณฑิ ตศึก ษาบางกลุมอาจต องเรียนรูสถิ ติหลายตั ว แปร โดยที่ไมเคยไดเรียนรูเกี่ยวกับสถิติเบื้องตนมา ก อ น ส ง ผลให ผู เ รี ย นอาจไม เ ข า ใจนิ ย ามเบื้ อ งต น พื้นฐานที่มาของทฤษฎีที่จําเปนตอการเรียนสถิติใน ระดับที่สูง ขึ้น เชน ทฤษฎีความนาจะเปน ที่มาของ ทฤษฎีก ารประมาณคาแต ละประเภท สง ผลใหเกิ ด ความเขาใจอยางไมถองแท คือ เขาใจเฉพาะวิธีการ คํานวณ แตไมเขาใจวาคํานวณไปเพื่ออะไร รวมถึง การที่ ใ นอดี ต ไม มี ค วามก า วหน า ของโปรแกรม คอมพิวเตอรตาง ๆ ที่เขามาชวยในการคํานวณทาง สถิติมากนัก ทําใหผูเรียนตองเผชิญกับประสบการณ การเรี ย นสถิ ติ ที่ ต อ งมี ก ารคํ า นวณที่ ซั บ ซ อ นและ ยากลําบาก สิ่งเหลานี้สงผลใหบุคคลสวนหนึ่งเกิดเจต คติทางลบกับสถิติ และทําใหไมประสบความสําเร็จใน การทําความเขาใจและนําสถิติมาใชในการดําเนินชีวิต หนังสือ "สถิติ: ความรูฉบับพกพา” เปน หนังสือที่สามารถชวยลดปญหาในการเกิดเจตคติทาง ลบตอสถิติของบุคคลไดเปนอยางดี โดยที่หนังสือเลม นี้ ไ ม ไ ด มี เ นื้ อ หาที่ เ ป น การเจาะลึ ก ถึ ง หลั ก การและ วิธีการเชิงลึกในการคํานวณและวิเคราะหขอมู ลดวย สถิติแตละชนิด เปน สิ่งที่ตําราทางสถิติที่ มีอยูทั่วไป วารสารพฤติกรรมศาสตร์ เพือ การพัฒนาปี ที ฉบับที มกราคม !
###()%&$
สามารถใหขอมูลที่สมบูรณไดเพียงพออยูแลว จุดเดน ของหนั ง สื อ เล ม นี้ อ ยู ที่ ก ารนํ า เสนอถึ ง แนวคิ ด และ หลักการของสถิติทั้งแนวคิดดั้งเดิมของสถิติจนกระทั่ง ถึงสถิติยุคใหมที่เกี่ยวของกับขอมูลในชีวิตประจําวัน และขอมูลทางวิชาการ แสดงใหเห็นอยางชัดเจนถึง พั ฒ นาการของการเกิ ด สถิ ติ แ ต ล ะประเภทที่ สอดคลองไปกับปรากฏการณจริงทางสังคมที่มีการ เปลี่ยนแปลงไปในแตละยุคสมัย โดยเฉพาะบริบทของ การวิจัยทางสังคมศาสตรและพฤติกรรมศาสตร มีการ แสดงใหเห็นถึงความเชื่อมโยงหรือภาพรวมมากกว า การลงรายละเอียดเชิงลึก มีการใชภาษาเขียนที่เขาใจ งาย ไมเปนภาษาทางวิชาการจนเกินไป รวมถึงมีการ ยกตัวอยางการนําไปใชที่เปนสถานการณจริงที่เขาใจ ไดงายและเห็นความแตกตางที่ชัดเจนระหวางการใช สถิ ติ แ ต ล ะประเภท ทํ า ให ผู อ า นเห็ น แนวทางการ เลื อ กใช ส ถิ ติ ที่ เ หมาะสมกั บ ป ญ หาการวิ จั ย ทาง สังคมศาสตรและพฤติกรรมศาสตร หรือขอมูลแตละ รูปแบบไดชัดเจนขึ้น เนื้อหา เมื่ อ กล า วในภาพรวมแล ว หนั ง สื อ เล ม นี้ ประกอบดวยเนื้อ หาจํ านวน ^ บท เรี ยงลํ าดับ จาก การสร างความเข าใจพื้น ฐานเบื้ องตน เกี่ย วกับ สถิ ติ และการใชสถิติ ตามดวยพัฒนาการของการเกิดสถิติ ประเภทตาง ๆ เรีย งลํ าดับ ตามลักษณะของป ญ หา การวิ จั ย หรื อ ป ญ หาที่ สั ง คมต อ งการค น หาคํ า ตอบ เริ่มตนจากในบทที่ E ผูเขียนไดกลาวถึงภาพรวมของ การนําสถิติมาใชในชีวิตประจําวันรอบ ๆ ตัวมนุษยใน ทุกสาขาอาชีพ โดยตั้งตนจากการอธิบายนิยามของ สถิ ติ ใ ห เ ชื่ อ มโยงกั บ การใช ง านจริ ง ในสั ง คม การ ชี้ใหเห็นถึงความเขาใจผิด หรือเจตคติเชิงลบที่บุคคล ทั่ ว ไปมี ต อ สถิ ติ เช น ความกลั ว สถิ ติ ความเคลื อ บ
ลิขสิทธิ%โดย สถาบันวิจยั พฤติกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
###()%&$
'" #!"%
แคลงไมเชื่อใจในการใชสถิติ จากนั้นจึงอธิบายถึงสถิติ ในระดับมหภาความีความหมายที่กวางขวางกวาการ วิ เ คราะห ข อ มู ล ทางคณิ ต ศาสตร แต ห มายถึ ง การ เรียนรูจากขอมูลตั้งแตการวางแผนรวบรวมขอมูลไป จนถึงการสรุปผลในขั้นตอนสุดทายเพื่อใหไดคําตอบที่ ต อ งการ สรุ ป ด ว ยการยกตั ว อย า งการนํ า สถิ ติ ม า ประยุ ก ต ใ ช เ พื่ อ การแก ป ญ หาในหลากหลายสาขา เช น การกรองอี เ มลขยะ การตั ด สิ น คดี ค วามทาง การแพทย การผลิตสารเคมี หรือการวิเคราะหความ พึงพอใจของลูกคา เปนตน จากนั้น เมื่อผูอานไดทํา ความเขาใจเกี่ยวกับหัวใจของการเขาใจสถิติยุคใหม แล ว ในบทที่ F ผู เ ขี ย นจึ ง เริ่ ม เข า สู ก ารอธิ บ าย หลักการของการพรรณนาขอมูลอยางงาย หรือสถิติ เชิงพรรณนา (_TW`SPaOPQT WOROPWOP`WK ซึ่งมีจุด ที่ แตกตางจากหนัง สือเรียนสถิติทั่วไปคือ ไมไดมีการ อธิบายเชิงลึกถึงวิธีการคํานวณ อธิบายใหเห็นวาสถิติ เชิงพรรณนาแตละตัวมีความเกี่ยวของกับคุณลักษณะ ของขอมูลอยางไรบาง และสถิติแตละตัวแตกตางกัน อยางไร ควรเลือกใชแบบไหน โดยใชภาษาและการ เปรียบเทียบที่เขาใจงาย เมื่ อ มาถึ ง บทที่ Y และบทที่ Z เป น การ กลาวถึงองคประกอบที่สําคัญของวิชาสถิติ ไดแก การ เก็บรวบรวมขอมูล และทฤษฎีความนาจะเปน ซึ่งทั้ง สองสว นนี้เปน สวนที่มี ความสําคัญต อความถูกตอ ง แมนยําของการสรุปผลการวิเคราะหขอมูลดวยสถิติ โดยในบทที่ Y ไดกลาวถึงหลักการเก็บรวบรวมขอมูล ที่ดี ที่เริ่มจากการชี้ใหเห็นลักษณะของขอมูลที่ไมดี F ประเภท ได แ ก ข อ มู ล ที่ ไ ม ส มบู ร ณ กั บ ข อ มู ล ที่ ไ ม ถูกตอง โดยไดกลาวถึงความลําเอียงประเภทตาง ๆ ความจํ า เป น ของการดํ า เนิ น การกั บ ข อ มู ล ก อ น ประมวลผล และวิธีการจัดการกับขอมูลที่หายไปแบบ ตาง ๆ โดยยกตัวอยางขอมูลสถานการณจริงประกอบ วารสารพฤติกรรมศาสตร์ เพือ การพัฒนา ปี ที ฉบับที มกราคม !
ทั้งนี้เพื่อใหการวิจัยตาง ๆ ไดรับขอมูลที่ดีเปนปจจัย นําเขาของการวิจัย ไมใชการนํา “ขยะ” ใสเขาไป แล วก็ ไ ด “ขยะ” กลับ ออกมา จากนั้น ในบทที่ Z ผูเขียนจึงไดกลาวถึงหลักการสําคัญของการใชสถิติ ทุ ก ปร ะ เ ภ ท นั่ น คื อ ทฤ ษฎี คว า มน าจ ะ เ ป น (bScdRdPNPOVOeTcSVK โดยอธิบายตั้งแตความหมาย ของความนาจะเปนพื้นฐาน ตัวอยางของเหตุการณ ความน า จะเป น หลายแบบ กฎต า ง ๆ ที่ เ กี่ ย วข อ ง จากนั้ นได มีการเชื่ อมโยงไปใหเ ห็นถึ งกฎของความ น า จะเป น ที่ ซั บ ซ อ นขึ้ น เช น ทฤษฎี บ ทของเบย (Bayes’s theorem) มีการอธิบายรูปแบบ ความ แตกตางและตัวอยางของการแจกแจงตัวแปรสุมแบบ ตาง ๆ ที่มักพบเห็นในตํา ราสถิติ เชน การแจกแจง แบบเบอรนู ลลี การแจกแจงแบบทวินาม การแจก แจงแบบปวซอง เชื่อมโยงมาถึงการแจกแจงแบบปกติ ที่คุนเคยกันมากที่สุด จากเนื้อหาในบทที่ Y และ Z จะนํ า มาซึ่ ง เนื้ อ หาในบทที่ J คื อ การประมาณค า แบบตาง ๆ และการอนุมานถึงความเปนจริงที่เกิดขึ้น ในสั ง คมในบริ บ ทต า ง ๆ โดยอาศั ย ข อ มู ลจากกลุ ม ตัวอยาง ซึ่งความเปนจริงเหลานั้นเปนสิ่งที่นักวิจัยไม สามารถสั ง เกตเห็ น ได ทั้ ง หมดอย า งแท จ ริ ง โดย ยกตัวอยางจากหลายสาขา เชน การวัดความเร็วของ แสง การทดลองวิ ธี รั ก ษา การสุ ม ตั ว อย า งเพื่ อ สัม ภาษณ ป ระชากรของพื้ น ที่ ห นึ่ ง ๆ เป น ต น โดย ผู เ ขี ย นได แ นะนํ า และอธิ บ ายให ผู อ า นได รู จั ก การ ประมาณคาแบบตาง ๆ เชน การประมาณคาแบบจุด (bcPUO TWOPkROPcUK การประมาณคาดวยวิธีความ เป น ไปได ม ากที่ สุ ด (LRlPkMk NPnTNPeccp TWOPkROPcUK การประมาณคาดวยวิธีกําลังสองนอย ที่สุด (qTRWOWuMRSTWTWOPkROPcUKการประมาณคา แบบเบย (vRVTWRPU TWOPkROPcUK รวมถึ ง การ ประมาณคาแบบชวง (wUOTSQRNTWOPkROPcUKเปนตน ลิขสิทธิ%โดย สถาบันวิจยั พฤติกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
'" #!"%
ชวยให ผูอ านที่ เคยเรีย นสถิ ติม าแลว และคุน เคยกั บ คําศัพทเหลานี้ไดเขาใจอยางชัดเจนขึ้นวา วิธีการแต ละประเภทคื อ อะไรและแตกต า งกั น อย า งไร โดย จุด มุ ง หมายของบทนี้ต อ งการให ผู อา นตระหนั ก ว า การอนุมานหรือการตัดสินใจผลที่ไดจากการทดสอบ ทางสถิตินั้น เปนไปไดหลายทางตามวิธีการทางสถิติ หลายแบบที่ มี ใ ห เ ลื อ กใช ผู อ า นต อ งเรี ย นรู ว า สถิ ติ แบบใดหรือการประมาณคาประเภทใดจะเหมาะสม และสมเหตุ ส มผลกั บ ข อ มู ล และที่ม าของข อ มู ล นั้ น มากที่สุด ในบทที่ x เปนการชี้ใหเห็นถึงการสรุปผล การใชสถิติเชื่อมโยงกับขอมูลจริงในรูปของโมเดลและ วิธีเชิงสถิติที่สําคัญพอสังเขปเพื่อใหเกิดความเขาใจใน ขอมูล โดยผูเขียนตั้งตนจากการให นิยามของโมเดล ทางสถิติ และอธิบายถึงโมเดลทางสถิติประเภทตางๆ ที่ แ ต ล ะประเภทสามารถพบได ใ นแต ล ะศาสตร ที่ แตกตา งกัน ไป เชน โมเดลเชิงกลไก (LT`eRUPWOP` kcpTNKใชแพรหลายในวิทยาศาสตร สวนโมเดลเชิง ประจั กษ (zkaPSP`RN kcpTNK นิ ย มใช ใ นสาขา สัง คมศาสตรและพฤติกรรมศาสตร นอกจากนี้ยัง มี การจําแนกเปนโมเดลเชิงสํารวจกับโมเดลเชิงยืนยัน จะใชแตกตางกันตามวัตถุประสงคของการวิจัย เปน ตน จากนั้น ผูเขียนไดนําเสนอใหเห็นถึงแนวทางการ นําสถิติไปใชจริง โดยแนะนําพอสังเขปถึงสถิติทั้งแบบ ดั้งเดิมและยุคใหมตาง ๆ เชน สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ การวิเคราะหถดถอย การวิเคราะหความแปรปรวน การวิเคราะหความอยูรอด (|MSQPQRNRURNVWPWKการ วิ เ คราะห โ มเดลเชิ ง เส น แบบทั่ ว ไป (}TUTSRNP~Tp NPUTRS kcpTNK การวิ เ คราะห ก าร จํ า แนกกลุ ม (_PW`SPkPURUO RURNVWPWK การวิเคราะหถดถอยเชิง โ ล จิ ส ติ ก ( qcPWOP` STSTWWPcU RURNVWPWK ก า ร วิ เ คราะห ก ารจั ด กลุ ม ( NMWOTS RURNVWPWK การ วารสารพฤติกรรมศาสตร์ เพือ การพัฒนาปี ที ฉบับที มกราคม !
###()%&$
วิเคราะหองคประกอบ (R`OcS RURNVWPWK และการ วิเคราะหอนุกรมเวลา (PkTWTSPTWRURNVWPWKเปน ตน โดยมีการอธิ บายถึงแตละแนวคิดอยางคราว ๆ เพื่อชี้ใหเห็นตัวอยางที่ชัดเจนวาสถิติแตละชนิดเหมาะ กับวัตถุประสงคของการศึกษาแบบใด ในบทสุดทาย เปนการแนะนําใหผูอานไดรูจักและเห็นความสําคัญ ของการใชโปรแกรมคอมพิวเตอรในการใชงานสถิติ ยุคใหม ทั้งในแงของการคํานวณคาสถิติและในแงของ การใชกราฟกในการแสดงผลการวิเคราะหทางสถิติได อยางชั ดเจนและทํา ใหสามารถเขาใจปรากฏการณ ตาง ๆ รอบตัวไดดียิ่งขึ้น บทสรุปและขอเสนอแนะในการนําไปใช หนังสือเลมนี้เปนหนังสือเกี่ยวกับสถิติและ วิ ช าสถิ ติ ที่ ไ ม ไ ด มี เ ป า หมายเพื่ อ ใช เ ป น คู มื อ ใน การศึกษาและวิเคราะหขอมูลทางสถิติในเชิงลึก แต เปนหนังสือที่นําเสนอเนื้อหาของสถิติทั้งสถิติในยุ ค ดั้งเดิมและสถิติในยุคใหมในภาพรวมกวาง ๆ ไวอยาง ครอบคลุม ทําใหผูอานสามารถมองเห็นจุดเชื่อมโยง ระหวา งสถิติแ ตล ะประเภทได อยา งชั ดเจน รวมถึ ง สามารถเชื่อมโยงสถิติหลายประเภทเขากับขอมูลหรือ สถานการณจริงในสังคมไดอยางสอดคลองกัน ซึ่งจุด นี้ จ ะช ว ยทํ า ให บุ ค คลเล็ ง เห็ น ถึ ง ประโยชน แ ละ ความสําคัญของสถิติที่มีตอการดําเนินชีวิตในสังคมได ดียิ่งขึ้นจากที่เดิมอาจมีเจตคติในเชิงลบหรือมีความไม เชื่อมั่นในการใชสถิตินอกจากนี้ ยังชวยใหบุคคลเกิด ความเขาใจถึงความจําเปนที่ตองศึกษาสถิติขั้นสูงหรือ สถิ ติ ที่ มี ค วามซั บ ซ อ นมากขึ้ น เพื่ อ ให ส ามารถ ตอบสนองตอความซับซอนของโลกในยุคปจจุบันและ เพิ่มความแมนยําในการอนุมานปรากฏการณจริงที่ เกิดขึ้นจากการศึกษาจากกลุมตัวอยาง หนังสือเลมนี้ จึงกอ ใหเกิ ดประโยชน ทั้ง ทางดานวิชาการเกี่ ยวกั บ
ลิขสิทธิ%โดย สถาบันวิจยั พฤติกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
###()%&$
'" #!"%
การเลือกใชสถิติในการวิ จัยเพื่อสรางองคความรูไ ด อยางเหมาะสม และเปนประโยชนในทางปฏิบัติใหกับ ผูเรียนสถิติ นักวิจัย และบุคคลทั่วไปในการนําสถิติไป ใชป ระโยชน ในหลากหลายสาขามากขึ้ น อยางไรก็ ตาม ผูที่จะอานหนังสือเลมนี้ไ ดอยางเกิดประโยชน มากที่สุด จําเปนตองมีความรูหรือรูจักกับสถิติทั้งยุค ดั้งเดิมและยุคใหมมาแลวพอสมควร เพื่ อใหเมื่ออาน หนังสือเลมนี้แลวจะไดสามารถเขาใจถึงสถิติที่ผูเขียน ไดกลาวถึงในหนังสือได เพราะหนังสือเลมนี้ไมไดลง รายละเอียดในเชิงลึกของสถิติแตละประเภท รวมถึง ผูอานจะไดสามารถนําการประยุกตใชสถิติที่ไดจาก หนัง สือเลมนี้ไปเติมเต็มความเขาใจของตนเกี่ย วกับ หลั ก การของสถิ ติ แ ต ล ะประเภทได อ ย า งชั ด เจน มากขึ้น เอกสารอางอิง บรรจงเศก ทรัพยโสภาXFJJEKปจจัยที่สงผลตอ ความวิตกกังวลในวิชาสถิติ และผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนวิชาสถิติของนิสิตคณะ ครุศาสตร: การวิเคราะหกลุมพหุ. วิทยานิพนธ ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาวิธีวิทยาการวิจัยการศึกษา. กรุงเทพฯ]จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย.
วารสารพฤติกรรมศาสตร์ เพือ การพัฒนา ปี ที ฉบับที มกราคม !
เบ็ญจะ นิสสัยสุข. XFJZ\Kปจจัยที่มีอิทธิพลตอ ความวิตกกังวลในการเรียนวิชาคณิตศาสตร พื้นฐานของนักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพ23 งานวิจัยสวนบุคคล. กรุงเทพฯ] สํานักประกันคุณภาพการศึกษา มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ลัดดาวัลย เกษมเนตร. XFJJEK สถิติเพื่อการ วิเคราะหขอมูลทางพฤติกรรมศาสตร. กรุงเทพฯ]สถาบันวิจัยพฤติกรรมศาสตร มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. ศิริชัย กาญจนวาสี. XFJJZKการวิเคราะหพหุระดับ (พิมพครั้งที่ JK กรุงเทพฯ] โรงพิมพแหง จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย. สุวิมล ติรกานันท. XFJJYKการวิเคราะหตัวแปรพหุ ในงานวิจัยทางสังคมศาสตร. กรุงเทพฯ] โรงพิมพแหงจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย. แฮนด, เดวิด เจXFJJJKสถิติ: ความรูฉบับพกพา 9;<=<>?<>@?A3B3CDEF3;GHE<3IJ
HJM2 (วิโรจน รุจิจนากุล1ผูแปลKกรุงเทพฯ] โอเพนเวิลด
ลิขสิทธิ%โดย สถาบันวิจยั พฤติกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ