ลากอนมดนอย
ทําใหเกิดการสงตอไปในวงกวาง และผมคิดวาจะสรางการไตรตรองความคิดไดนอ ย แตจะสรางความสะใจไดมาก นี่คือขอกังวล และไดขอนําเสนอสิ่งตอไปนื้ เพื่อการเรียนรูรวมกัน ดวยจิตนอบนอม ศิริวัฒน เก็งธรรม email :
[email protected] Website : http://toodtooster.blogspot.com เลขประจําตัว กฟผ. 174319 โทร 0243-66055
นี่คือ Forward Mail ที่สงกันขยายความตอกันมา และใช Reply to All เพื่อกระจายใหแพรหลายตอไป คําถามที่ไมนาถามคือ เปนนิทานอีสป จริงหรือ คําสั่งที่ไมไดปฏิเสธคือ ใหอานดวยก็ไดปฏิบัติแลว From: Ruengvarayudh Pradittasane Sent: . 26/4/2554 21:42 To: Kornrasit Pakchotanon; Parichart Suttiprasit; Nissara Siddhichai; Kanchit Ngamsanroaj; Paitoon Chokrung; Waraporn Kunawanakit; Sirikan Sawangsawai; Chaovanit Sosanui; Titiporn Sangpetch; Charcrist Kuhakarn; Muncharee Preechanont; Alisa Chunya; Minlada Banjongtad; Udomphon Sritarang; Tamonpan Rodsomboon; Kiatisak Teowkul; Sumanee Teerasawasdi; Worapoj Worapong; Marut Pitayachaval; Wattanachai Pay-arun; Pimonpan Nimnetipan; Suwatsa Sawatdimongkol; Niphon Phithakchaichan; Ancharat Ratanawong; Danaikan Jeawkok; Supayoke Yaoduang; Kaweenuch Srisombut; Niphon Punnopakorn; Numkabuan Jeeratanyasakul; Chitti Talabnark; Chawalit Kankham; Nampol Chaowalittrakul; Sarayudth Keawkamthong; Jaray Srimoung; bddplan; bddeia; Prakit Rattana; Skolwan Piemsumrith; Nutthavutthi Chamchang; Sutin Choochart; Supawat Kladthong; Sahathep Joipradit; Kittisak Sasipattarakul; Anuwat Yingyuad; Suwan Mooheng; Pisanu Sutepin; Navarat Pongyat; Nataroj Chalermpacktra; Mahama Pahlawan; Chouvalit Vichiraprasirt; Somdayt Ngamsritragul; Jirud Thawornprasit; Amaraporn Ponprachit; Danununt Chaiyatoom; Korawee Bunman; Kravee Juntarasemawun; Chanon Jeenpan; Thanompong Jirattitikal; Buaban Utvanna; Kanitha Simpaisal; '
[email protected]'; Famui Singto; Prasert Pongjittum; Pattana Srivithip; Isarawit Chaopanich; Wanchai Saeng-ob; Tanabodee Duangsroitong; Apichart Sa-ngob; Sarawut Natsirorat; Pramote Thadee; Anurat Wongsulorat; Pisuth Thasananunchai; Wichian Bahtwong Cc: /4.ก ก; /5.ก ก; /5.ก 11; /5.ก ก Subject: RE: _
ก!"#$ % &" "!"' ()*+ !#, ,-ก (Multicultural) )%% .#!/ - ", "0$ก,% ก + "ก,& " %'' * 12" -กก (3!4*ก,!/ Stakeholder ,!ก, $ ก ' !ก ) 6,)%% !#, ,-ก#!/ !#,,!ก, $ ก7 1 ' ก ก & ' + ก8&- - ก,+ 3" , "-&$'ก9 &:- % 'ก & !/ 3" , "-&- !#,'ก,: . ( % ' %<- : 2548) 6,-!!+ - ", " !/ & ,! (Melting pot) ก! %* . +& ก & ก &ก!/ " !#,, " -ก% 6," -ก-ก +& กกก%ก" , " $ % !ก" $- -ก-ก $" !#,#' +%ก ก+ " $ ."# $ก$" !$ +% -'+ ,-ก$ก ก ' & , - +"%!ก!&9 ' !$ +%' -"'& ' $ "' ,> "$ !"
ก!"#$ % &" "!"' ()*+ !#, ,-ก (Multicultural) )%% .#!/ - ", "0$ก,% ก + "ก,& " %''* 12" -กก (3!4*ก!, / Stakeholder ,!ก, $ ก ' !ก ) 6,)%% !#, ,-ก# !/ !#,,!ก, $ ก7 1 ' กก & ' + ก8&- - ก, + 3" , "-&$'ก9&:- % 'ก & !/ 3" , "-&- !#,'ก,: . ( % ' %<- : 2548) 6,-!!+ - ", " !/ & ,! (Melting pot) ก! %* . +& ก & ก &ก!/ " !#,, " -ก% 6," -ก-ก +& กกก%ก" , "$ % !ก" $- -ก-ก $" !#,#' +%ก ก+ " $ ."# $ก$" !$ +% -'+ ,-ก$ก ก ' & , - +"%!ก!&9 ' !$ +%' -"'& ' $ "' , > "$ ! "
,, ก. !
วิถีทแ ี่ ตกตาง (Multicultural)
ทัศนคติมุมมองของนองๆ
สวนรุกขชาติ คือตัวอยางของความงดงาม ในความแตกตางบนมุมมอง ของปจเจกบุคคล
!#, .ก" !# ก2 1?2> 2 ก@Aก--& ก - ก นี่มิใชคําตอบเดียวที่ปรากฏ มีอีกหลากทัศนะ แต คําถามของผมตอนานาทัศนะคือ ดีที่วานั้น ดีอยางไร เอาอะไรมาอธิบาย
ตอไปคือตนตอของ มดนอย ครับ
อันนี้นําสาระที่ นองเขา ประกาศไวมา เนนนะครับ
!$ !#, -%+" ก " !/ " + " -!ก9ก!/ . " !ก9 " ! " " !&ก<2 ! " !&# & & !! '!"!$ +%! & & ก9&- " )ก+% " !%ก3! . " !ก- 37 -" & & #, กก "
+! !/ . !,!&9 & & , !#ก%'!&9 + " ก !/ " , ' ' +- " !ก- กก- !#, .-ก " -ก !*,! ,% " !*, ' " ,!*, + ! !*, &$ &" (" ) !*, ' %!/ '' " ,'& !&# ก " '+& ','+!/ '!*#,ก ,!/ ' ," ",'!-
!ก- .3& $ ( &" ") '&ก" - 3 . ' +& *+% -->กB*+ ก&' +!ก ก- .<%& . ก" 3 ก' " - IT ก97 !* ก ก- !&9 IT - !&9 +% '+"% " ! - +& !/ %กก9!
!&# !! +% ! !/ . &# ' - +&&" &" %ก- - . $3 " !*,ก '!& +,3 "+ %!*, ก . ก9 '+& % - !& '+ก (<2$. - ) !/ ก(. 3' - 555
+! $!! +%ก + ก(. ก'ก - %!#.!$ ก9- 3& ก ก!$ ,'& '' 555 - ! ก- $31 !/ !/ ! +& ' !/ !#," (Value) &# 555 !ก- - ! ก"!%ก- % '!",% ' ! + " "& %C
3& - ' !&. ! ก- + ก(. &:-
!"&2' .& ? , 3 !$ ' !% - กก9 , -& ก - - ' 4& .&" ' !#," %ก $ ก. ' !&.!C $"<
ความคิดผมนะครับ ' % !* " ,- %+ ,# & ก' ก- .' " ,- % "2ก%ก ก - %ก ' - & , "2ก%3&& ' +% " ลองดูนิทานจาก ที่อื่นบางนะครับ
http://thaiworthreading.blogspot.com/2008/11/blog-post_1059.html
+ & ! & , '' 2 ก! " " 6'(" ก 6'(!ก ** ก!$ก%ก'( ก " & , ก" " !! !9' !$ $& " '& %' . ก " ก! " & , " ก9 " , กก!!$" " "
'' 2 * " . !& "<"+& " , !&9 ก" , กก!9' !$" !$ก9 " !ก%ก'!ก!&# ก !$!ก9 กก!&# ก - ! ก" !&9 @A$ ก9 " !ก9!&# ก . $* ก"<ก". +",%' . ก ก - "
ก! " & ,*$. " #, ! " ! - *" !&9 ก" กก ก9 ก ! กก- -" , กก !&9 ก" ก9 ก !'กก! . " , ,' . ก - ! ..... ก'&"...."
'' 2', ก! ก" ก! ก" !&9 ก" . '' 2 "*$. &กก-!& " " .ก9 ." ก%ก'(!ก!&# ก %!/ '' '," & , ก" & ,%กก ,-&,!$!ก " ก " " !#," "$" !กก % ก9%'-ก--&!& -&!#, ,- %ก' , "# " ก "
%&ก' ก9 ก3ก%ก " * 7 ก$" !" " &!,%ก " กก" " " &ก& %ก " ,, +& &%ก" % " $% " ?-&ก " %& ก ' ก9!#, "<&ก.& ," !$%4ก "<'
ก9' !/ !#,%%ก '' 2 &#!/ !#,-!*#,+& " * ก ก " !#, . !9' " ",+ !&' &.
-!&9 !/ !#," ก ,ก +& !$ " ก . - '' 2 !/ !#,ก " " ,!$ " ก !#,,ก+& () " *%< "
คําถามสามขอ http://www.dhammathai.org/dhammastory/view.php?No=335
พระจักรพรรดิพระองคหนึ่ง บริหารบานเมืองอยาง เต็มพระปรีชาสามารถ แตพระองคกร็ ูสก ึ วาตัวเอง งานผิดพลาดอยูบอยๆ.... พระองคตระหนักวา หากทรงรูคําตอบปญหา 3 ประการ ดังตอไปนี้แลว จะทําใหพระองคทรงทํา อะไร ไมผิดพลาดเลย
คําถาม 3 ประการนี้คอ ื 1. เวลาไหนที่เปนเวลาที่เหมาะสมที่สด ุ ในการทํา กิจแตละอยาง 2. ใครคือคนสําคัญทีส ่ ุดที่ควรทํางานดวย 3. อะไรคือสิ่งทีส ่ ําคัญที่สุดที่ควรทําตลอดเวลา พระจักรพรรดิสั่งใหประกาศวาใครก็ตามที่สามารถ จะตอบคําถาม 3 ขอนี้ได จะไดรับรางวัลมหาศาล
ปญหาขอที่ 1 มีผูตอบแตกตางกัน.... คนที่ 1 แนะนําใหพระจักรพรรดิทําราตางเวลาที่แนนอน สําหรับภารกิจแตละ อยาง ทุกๆชั่วโมง ทุกๆวัน ทุกๆ ป ดวยวิธน ี ี้เทานั้นจึงจะสามารถทํากิจไดถูกตอง ตามกาลที่เหมาะสม.... คนที่ 2 บอกวาเปนไปไมไดที่จะวางแผนลวงหนาเชนนั้น แลวแนะนําวาพระ จักรพรรดิควรจะเลิกความสนุกสนานไรสาระทัง้ หมด แลวเอาใจใสตอกิจกรรม ตางๆ โดยพระองคเองทุกอยาง จึงจะทราบไดวาเวลาไหนเหมาะสมที่จะทําอะไร .... คนที่ 3 ยืนยันวาเปนไปไมไดที่พระจักรพรรดิหวังจะเลือกเวลาทํากิจ ตางๆ ที่อยูในอํานาจความรับผิดชอบไดเหมาะสมทุกอยาง.... สิ่งที่จําเปน ก็คือตองมี "สภาแหงคนฉลาด" และทําตามคําแนะนําของสภานั้น แตก็มีคนแยงวาสิ่งตางๆ จําเปนตองตัดสินใจทันที ไมอาจรอการปรึกษาได ฉะนั้นหากตองการจะรูลวงหนาวาอะไรเกิดขึน ้ .... พระจักรพรรดิค ์ วรจะปรึกษาผูวิเศษและหมอเวทมนต
ปญหาขอทีส ่ องคําตอบก็แตกตางกันออกไป คนที่ 1 เสนอวาพระจักรพรรดิจะตองไววางในคณะ ขุนนางขาราชการ อยางเต็มที่ คนที่ 2 บอกวา ตองไววางใจพระและนักบวช คนที่ 3 เสนอนักวิทยาศาสตร แถมยังมีบางคนเสนอใหไววางใจตอนักรบ
คําตอบตอคําถามที่สามก็ตางกันไปเชนกัน คนที่ 1 บอกวาวิทยาศาสตรเปนสิง่ ที่จะตองติดตาม อยูตลอดเวลา คนที่ 2 วาตองเรือ ่ งศาสนาตางหาก คนที่ 3 วาสิ่งที่สําคัญทีส ่ ุดคือทักษะการทําสงคราม
พระจักรพรรดิ์ไมพอพระทัย คําตอบไหนเลย จึงตัดสิน พระทัยไปหาฤาษีตนหนึ่ง ผูอาศัยอยูบนเขา ซึ่งตรัสรูเห็น แจง.... ทั้งๆ ที่รูวาฤาษีนั้นจะตอนรับเฉพาะคนยากจน เทานั้น ไม ยอมตอนรับคนร่ํารวย หรือผูมีอํานาจราชศักดิ์ จึงตอง ปลอมตัว เปนชาวนา และสั่งองครักษใหคอยอยูที่เชิงเขา โดยที่ทรงไตเนินเขา ขึ้นไปพบฤาษีตามลําพัง
พอมาถึงที่อยูข อง "ผูรู" ที่วานั้น.... ทรงพบวาฤาษีกําลังขุดดินอยูใ นสวนหนากระทอม เมื่อฤาษีเห็นผูแปลกหนาก็ผงกหัวเปนการตอนรับ แลวก็ขุดดินตอไป.... เห็นไดชัดวาการใชแรงนัน ้ เปนงานหนักเพราะฤาษี นั้นชรามากแลว แตละครั้งที่จอบฟนลงไปพลิกดิน ขึ้นมาทานจะตองหอบแรงๆ.. ทุกครั้งไป
พระจักรพรรดิเขาไปหาแลวตรัสวา "ผมมานี่เพื่อขอความชวยเหลือจากทาน ขอใหทานชวยแกปญหา 3 ขอของผม คือ 1. เวลาไหนเปนเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการทํากิจแตละ อยาง 2. ใครคือคนสําคัญที่สุดที่ควรทํางานดวย 3. อะไรคือสิ่งสําคัญที่สุดที่ควรทําตลอดเวลา ฤาษีฟงคําถามดวยความเอาใจใส แตมิไดตอบ เพียงแต เอามือตบไหลจักรพรรดิเบาๆ และก็ขุดดินตอไป
จักรพรรดิตรัสวา "ทานคงเหนื่อยมาก มาใหผมไดชวยทาน เถอะ".... ฤาษีขอบใจ แลวก็สงจอบใหจักรพรรดิ จากนั้นก็นั่งพักบน พื้นดินนั้น หลังจากขุดไปได 2 รอง จักรพรรดิก็หยุด และหันมาถามหัญหาทั้ง 3 อีกครั้งหนึ่ง.... ฤาษีก็มิไดตอบอีก แตยืนขึ้นและชี้มือไปที่จอบ และบอก วา "หยุดพักไดแลวละ....ฉันทําตอไปไดแลว".... แตจักรพรรดิไมสงจอบใหและขุดดินตอไป ชั่วโมงหนึ่ง ผานไปแลวก็สองชั่วโมง จนอาทิตยลับไปหลังภูเขา
จักรพรรดิทรงวางจอบลง และหันมาตรัส กับฤาษีวา "ผมมาที่นี่เพื่อขอรองใหทานชวยตอบ คําถามของผม หากทานไมสามารถตอบ ไดโปรดบอกใหผมรูดวย ผมจะไดกลับ บานของผม"
ฤาษีเงยหนาขึ้นและถามจักรพรรดิวา "เธอไดยินเสียงใครกําลังวิ่งมาทางนี้หรือเปลา" จักรพรรดิหน ั ไปทอดพระเนตร ทันใดนัน ้ ทั้งสองก็ เห็น ชาย มีเคราขาวคนหนึ่งเตลิด ออกมามือทั้ง สองกุมบาดแผล โชกเลือดทีท ่ อง เขาวิ่งตรงมายัง จักรพรรดิกอนที่จะลมลงสิ้นสติไป.... ตรงหนา
พอเปดเสื้อผาออกทั้งจัรกรพรรดิ และฤาษีก็แลเห็น บาดแผลลึกที่หนาทองของชายผูนั้น.... จักรพรรดิไดทรงทําความสะอาดบาดแผล แลวเอา ฉลองพระองคพันแผลให เพียงประเดี๋ยวเดียว.... เสื้อนั้นก็โชกไปดวยเลือดเพราะเลือดไหลไมหยุด จักรพรรดิก็เลยเอาเสื้อนั้นออกมาซักบิดใหแหงแลว พันแผล อีกเปนครัง้ ที่สอง และทําอยูอ ยางนั้นจน กระทั้งเลือดหยุดไหล....
เมื่อคนเจ็บฟน ไดสติ ก็รองขอน้ํา จักรพรรดิรีบไป ที่ลําธารตักน้ําใสสะอาดมาใหเหยือกหนึ่ง ขณะนั้น ดวงตะวันลับฟาไปแลว และอากาศหนาวยามค่ํา คืนเริ่มแผคลุมไปทั่ว.... ฤาษีชวยจักรพรรดินําคนเจ็บเขามาในกระทอม และใหนอนบนเตียงของตนชายนั้นปดตาลงและ นอนหลับไป
จักรพรรดิเองก็ประทับพิงประตูกระทอมหลับไป เชนกัน.... ดวยความเหนื่อยออนจากการปน เขาและการขุด ดินทั้งวัน และมาตื่นบรรทมขึ้นเมือ ่ ตะวันโผลพน ขอบฟา.... แลวจักรพรรดิทรงลืมไปชั่วขณะวาพระองคเสด็จ มาอยูที่ไหน และมาทําอะไร ทรงทอดพระเนตรไป ที่เตียงคนเจ็บทันที... และก็พบวาชายผูนั้นกําลังจองมาองมายังตนอยาง ฉงนฉงาย
พอเห็นจักรพรรดิ์ ชายผูนั้นก็ครวญครางออกมา อยางแผวเบาวา "ไดโปรดประทานอภัยโทษใหขาพระองคดวย" "แตเธอทําผิดอะไรเลาทีฉ ่ ันจะตองใหอภัย" จักรพรรดิตรัสถามกลับ "ทานไมรูจักขาพระองค แตขาพระองครูจักทานดี พี่ชายของขาพระองคถูกฆาเมื่อสงครามครั้งที่ผาน มานี้ และทรัพยสมบัติถูกริบหมด ขาพระองคจึงถือ วาทานคือศัตรูคูอาฆาต ขาปฏิญาณไววาจะตองลางแคนใหได
เมื่อทราบขาววาทานขึน ้ มาหาฤาษีตามลําพัง ขาพระองคจึงตั้งไจที่ จะดักฆาทาน เสียตอนทานเสด็จกลับ.... แตรออยูนานไมเห็นทาน ขาพระองคจึงออกจากที่ซม ุ กําบังเพื่อตาม หา แตแทนที่จะพบทานขาพระองคกลับไปเจอะเอาทหารองครักษ ของทานเขา พวกนัน ้ จําขาพระองคไดและเขาจับกุมขาพระองคจน ถูกมีดบาดเจ็บ แตขาพระองคยังโชคดีที่หนีรอดการจับกุมไดและวิ่ง มาที่นี่ ถาไมไดพบทานปานนี้ขาพระองคคงตายไปแลว ขาพระองคละอายใจและสํานึกในพระคุณอยางบอกไมถูก.... หากขาพระองคมีชีวิตอยูตอไปขออุทศ ิ ชีวิตชวงที่เหลือนี้รับใชทาน ตลอดไป และจะสั่งสอนลูกหลานใหทําเชนเดียวกันดวย.... ขอโปรดประทานอภัยใหขาพระองคดวยเถิด"
จักรพรรดิดีพระทัยยิ่งนัก ที่ศัตรูไดกลับมาเปนมิตร อยางงายดาย.... นอกจากจะประทานอภัยแลวยังทรงสัญญาที่จะคืน ทรัพยสมบัติ ที่ริบมาจากชายผูนั้น ตลอดจนจัดสง แพทยและคนใชไปคอยรักษาพยาบาล.... จนกวาเขาจะหายเปนปกติอีกดวย
พอสั่งทหารใหนําชายผูนั้นไปสงบานแลว จักรพรรดิก็เสด็จกลับมาหาฤาษีอีกครั้ง เพื่อทวน คําถามเปนครั้งสุดทายและพบวา ฤาษีกําลังหวาน เมล็ดพืชลงบนดินที่ขุดไว ฤาษีเงยหนาขึ้นและหันมาทางจักรพรรดิ "คําถามของทานไดรับคําตอบหมดแลวนี่" "อยางไรกัน" พระจักรพรรดิทรงถามดวยความงุนงง ....
"เมื่อวานนี้ ถาทานไมเกิดความสงสารสังขารของ ฉันและลงมือชวยฉันขุดดิน ทานก็คงถูกทําราย โดยชายผูนั้นตอนขากลับ และคงตองโทมนัสใจ อยางมากที่ไมไดพักอยูก ับฉัน ดังนั้นเวลาสําคัญ ที่สุดตอนนั้น ก็คือเวลาที่ทานขุดดิน บุคคลที่ สําคัญที่สุดก็คอ ื ตัวฉัน.... และภารกิจที่สําคัญที่สุดก็คอ ื การชวยฉันขุดดิน"
"จากนั้นเมื่อชายบาดเจ็บผูนั้นวิ่งมา เวลาที่สําคัญ ที่สุด.... ก็คือตอนทีท ่ านชวยพยาบาลเขา เพราะมิฉะนั้น เขาก็จะตองตายไป และทานก็จะหมดโอกาสที่จะ ไดกลับเปนมิตรกับเขา บุคคลที่สําคัญที่สุดก็คือ ชายผูนั้น ภารกิจสําคัญทีส ่ ุด ก็คือการ รักษา พยาบาลเขา"....
จงจําไววา เวลาที่สําคัญที่สุดเวลาเดียวคือ "ปจจุบัน" ชวงขณะปจจุบันเทานั้นที่เปนเวลาที่เราเปนเจาของ อยางแทจริง บุคคลที่สําคัญที่สุดก็คือคนที่เรากําลังติดตออยู “คน ที่อยูตอหนาเรา” เพราะเราไมรูวาในอนาคตเราจะมี โอกาสไดติดตอกับใครอีกหรือไม และภารกิจที่สําคัญที่สุดก็คือการทําใหคนที่อยูกับเรา ขณะนั้นๆ มีความสุข เพราะนั่นเปน “ภารกิจอยาง เดียวของชีวิต"....
จงจําไววา เวลาที่สําคัญที่สุดเวลาเดียวคือ "ปจจุบัน" ชวงขณะปจจุบันเทานั้นที่เปนเวลาที่เราเปนเจาของ อยางแทจริง บุคคลที่สําคัญที่สุดก็คือคนที่เรากําลังติดตออยู “คน ที่อยูตอหนาเรา” เพราะเราไมรูวาในอนาคตเราจะมี โอกาสไดติดตอกับใครอีกหรือไม และภารกิจที่สําคัญที่สุดก็คือการทําใหคนที่อยูกับเรา ขณะนั้นๆ มีความสุข เพราะนั่นเปน “ภารกิจอยาง เดียวของชีวิต"....
ผมคงไมสรุปอะไรนะครับ ผมรูเพียงวาเปนเรื่องจาก นิทานปรัชญา ของ ตอลสตอย
คงตองฝากไวใหพิจารณากันเลนนะครับ แตมีบางคนเอาไปขยายผลนะครับ ลองอานความเห็นเขานะครับ
ควง เรื่องของตอลสตอยนี้ คลา ยกับเรื่องในพระไตรปฎกและไมขัดกับพระสูตรใด ๆ เลย เรา พูดถึงการรับใชสังคม รับใชประชาชน รับใชมนุษยชาติ รับใชผูอื่นที่ไกลตัวเราออกไป แตเรา มักจะลืมไปวา คนรอบ ๆ ตัว เรานั่ นแหละคือบุคคลแรกที่เราจะตองรั บใช ถา เธอไมอาจจะรับใช บอย เมียของเธอ และหนูนอยไห เทรี ยว อัม เธอจะไปรับใชสังคมไดอยางไร ถาเธอไม สามารถทําใหไห เทรียว อัม มี ความสุ ข เธอจะหวังไปใหความสุขแกคนอื่นได อยางไร ถา หากเพื่อน ๆ ของเราที่ปฏิบั ติงานเพื่อสั งคมไมมี ความรักตอกัน และชวยเหลือ ซึ่งกันและกัน แลว เราจะไปรักใครและชวยเหลือใครได เรากําลังทํ างานเพื่อมนุษยชาติ หรือ เรากําลั ง ทํางานเพื่อชื่อเสียงขององคการของเรา รับใชสังคม คํ าวา “รับใช” นี้ยิ่งใหญ นัก คําวาสั งคมก็เป นคําใหญเชนเดียวกัน ขอเราจงหัน กลับมาถึ งเรื่องเล็ก ๆ ที่ใกลตัว สักหนอยเถอะ ครอบครัวของเรา หองเรี ยนของเรา เพื่อน ๆ ของเรา ขุมชนของเรา เราจะตองมีชีวิตอยูเ พื่อเขาเหลานั้นมิ ฉะนั้นเราก็ไมอาจจะมีชีวิตอยู เพื่อสังคมได ฤาษีของตอลสตอยคือพระโพธิสัตว แต พระจักรพรรดิจะทรงรู จักความหมายและทิศทางของ ชีวิตละหรือ เราจะทําอยา งไรจึ งจะสามารถอยูกับปจจุบัน อยูกับ คนรอบขางเรา ชวยลดความ ทุกขและเพิ่ม ความสุ ขแหงชีวิ ตเหลา นั้น ทําอย างไรควง คํา ตอบก็คือเราจะตองฝกสติ หลักการที่ ตอลสตอยใหนั้นดู งาย ๆ แต ถาเราตองการใหเปนเรื่องของการปฏิบั ติจริ งแลว เรา จะตองใชวิถีท างแห งสติ เพื่อจะเข าถึงพุทธมรคา ควง ครูเ ขียนจดหมายนี้ เพื่อเพื่อน ๆ ผูปฏิบัติงานของเรา มี คนเขียนเกี่ยวกับเรื่องราวเหลานี้แ ลวมากมายไมไ ดมีประสบการณ จริง ๆ ครูเขี ยนความเป นอยูและประสบการณในชีวิ ตจริงของครู ครูหวั งวา คงเป นประโยชนตอเธอ และเพื่อน ๆ ของเราบา ง บนวิ ถีทางแหงการแสวงหาของพวกเรานี้ อันไดแกวิถีทางแห งการ กลับคืนของพวกเรา กุมภาพัน¸ì ๒๕๑๘ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=porco-rosso&month=17-09-2007&group=7&gblog=2
นิทานนั้นมีการใสเงื่อนไข ตัวละคร เหตุการณ โดยมีจุดในการนําเสนอของคน นําเสนอเปนผูพาไป สอดประสานกันบาง มีเหตุเหนือจริงบาง ไมสอดรับกันบาง ในการสัมผัสนั้นเครื่องกรองของเรา ทัศนะ คติ ความเชื่อ คานิยม หลักปฏิบัติ ระบบการ คิด ทําใหเรารูสึกและคิดแตกตางกันไป ไม แปลกถาจะชื่นชมทุกความคิดเหมือน ชื่นชมสวนรุกขชาติ โปรดอยูก ับปจจุบัน กับสิ่งที่อยูตรงหนา สําคัญที่สุดคือทําทุกอยางดวยความ ปรารถนาดีที่จะทําใหโลกนี้ยั่งยืนตอไป
ขออภัยหากสิ่งนี้ ลวงเกินหรือรบกวนทาน ขอใหมีความสุขมากๆ นะครับ
รักและปรารถนาดี ดวยจิตนอบนอมครับ ตุดตู ราเริง ๒๙ เมษายน ๒๕๕๔