คู่มอื การใช้ งาน Rangsit Learning Management System

ศูนย์ นวัตกรรมการเรียนรู้ มหาวิทยาลัยรังสิ ต

แนะนาระบบบริหารการเรียนการสอน ระบบบริหารการเรียนการสอน (Learning Management System - LMS) เป็ นระบบที่ใช้บริ หารจัดการการเรี ยนการสอน โดยการอานวยความสะดวกในการจัดกลุ่มเนื้อหาและ กิจกรรมการเรี ยนรู ้ การสื่ อสารโต้ตอบระหว่างผูส้ อนกับผูเ้ รี ยน และผูเ้ รี ยนกับผูเ้ รี ยน รวมทั้งการสร้าง แบบทดสอบ การทดสอบและการประเมินผลบนเครื อข่ายอินเทอร์ เน็ต ความต้ องการทางด้ าน Software ของระบบ LMS เพื่อความสมบูรณ์ในการใช้งานของระบบ เครื่ องคอมพิวเตอร์ ของท่านควรมี Software ขั้นต่า ดังต่อไปนี้ 1. ระบบปฏิบตั ิการของเครื่ องคอมพิวเตอร์ ควรจะเป็ น Windows XP , Vista และ 7 2. Browser ที่ใช้งานของระบบ ควรจะเป็ น Internet Explorer 8.0 ขึ้นไป หรื อ Mozilla Firefox 3.6.8 ขึ้นไป 3. Flash Player 9.0 ขึ้นไป

การเข้ าสู่ ระบบ ท่านสามารถเข้าสู่ ระบบ โดยพิมพ์ในช่อง URL : http://lms.rsu.ac.th และทาการเลื่อนเมาส์ไปที่มุมบน ด้านขวา คลิกเลือก Sign in with google สามารถเข้าได้โดยการกรอกอีเมล์ของมหาวิทยาลัย คลิก Sign in with google

ส่ วนการออกจากระบบ ท่านสามารถออกจากระบบได้โดยการเลื่อนเมาส์ไปที่ชื่อยูสเซอร์ ซึ่ งอยูม่ ุมบน ด้านขวาและเลือก “ออกจากระบบ” หรื อ “Log out” แล้วจะกลับสู่ หน้าแรกของระบบ ชื่อยูสเซอร์

เลือก “Log out”

ข้ อแนะนา : หลังจากการใช้งานระบบเสร็ จสิ้น ควรจะกดปุ่ ม “ออกจากระบบ” หรื อ “Log out” ทุกครั้งก่อนที่จะปิ ด Browser

การแก้ ไขข้ อมูลส่ วนตัว หลังจากที่เข้าสู่ ระบบในครั้งแรก ควรจะทาการป้ อนข้อมูลส่ วนตัวพื้นฐาน เช่น เพิ่มรู ปภาพเข้าสู่ ระบบ ข้อมูลส่ วนตัวเหล่านี้ จะเอื้อต่อการสร้างสัมพันธภาพและสังคมในการเรี ยนออนไลน์ การแก้ไขข้อมูลส่ วนตัว สามารถไปที่เมนู My profile setting > Edit profile และทาการเพิ่มข้อมูลส่ วนตัวต่างๆลงในระบบ หรื อจะทาการ แก้ไขข้อมูลส่ วนตัว จากนั้นกดปุ่ ม “Update profile” เลือก “Edit profile”

กดปุ่ ม “Update profile”

การจัดการระบบ ท่านสามารถจัดการข้อมูลต่างๆ ในรายวิชาของท่านได้ โดยระบบจะมีเมนู การจัดการระบบ อยูท่ ี่ ทางด้านขวาของหน้าโครงสร้างรายวิชา

Turn editing on ใช้สาหรับปิ ดหรื อเปิ ดการแก้ไขหน้าจอโครงสร้างรายวิชา Edit setting ใช้สาหรับกลับไปตั้งค่าเริ่ มต้น หรื อเปลี่ยนแปลงค่าเริ่ มต้นของรายวิชา User ใช้สาหรับกาหนดบทบาทของผูเ้ ข้าใช้ระบบ โดยจะแสดงรายชื่อของผูเ้ ข้าใช้วา่ มีบทบาทเป็ นอะไรใน รายวิชานี้ และท่านยังสามารถแก้ไขรายละเอียดของแต่ละบทบาทได้ดว้ ย โดยคลิกที่บทบาทนั้นๆ แล้ว เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขต่างๆ Unenrol me from ยกเลิกบทบาทของตัวเองจากรายวิชา (จะเห็นก็ต่อเมื่อมีบทบาทในรายวิชานั้น) Filters กาหนด Filter ต่างๆที่ใช้งานในรายวิชา มีค่า Default (On) Reports ใช้สาหรับเรี ยกดูรายงาน เช่น ผลบันทึกการใช้งานเว็บไซต์เริ่ มจากชัว่ โมงที่ผา่ นมา รายงานผลกิจกรรม Grades จะแสดงคะแนนของผูเ้ รี ยนทั้งหมดแยกตามกิจกรรมทั้งหมดที่มีการเก็บคะแนน นอกจากนี้ยงั สามารถ ดาวน์โหลดคะแนนในรู ปแบบไฟล์ Excel ได้ดว้ ย Backup ใช้สาหรับเก็บหรื อบันทึกข้อมูลของระบบในการเข้าใช้งานในแต่ละหลักสู ตรเพื่อป้ องกันข้อมูลของ ผูเ้ รี ยนสู ญหาย

Restore ใช้สาหรับกรณี ที่ขอ้ มูลของผูเ้ ข้าใช้ระบบสู ญหาย โดยให้นาไฟล์ที่ทาการสารองข้อมูลไว้กคู้ ืนกลับมายัง รายวิชา Import ใช้สาหรับนาเข้ากิจกรรมจากรายวิชาอื่นที่เนื้ อหาวิชาใกล้เคียงกัน สามารถใช้กิจกรรมร่ วมกันได้เช่น นาเข้าข้อสอบ นาเข้ากลุ่ม หรื อเนื้ อหาหลักสู ตร Publish เป็ นการกาหนด Publish ให้กบั รายวิชา (administrator ไม่ได้เปิ ดการใช้งาน) Reset ใช้สาหรับลบข้อมูลสมาชิกในรายวิชา แต่ยงั เก็บกิจกรรมและการตั้งค่าอื่นๆ ไว้ ซึ่ งข้อมูลที่ลบไปจะไม่ สามารถกูค้ ืนกลับมาได้ Question bank ใช้สาหรับสร้างคาถามหรื อข้อสอบเก็บไว้ในคลังข้อสอบของรายวิชาเพื่อนาไปใช้ในภายหลัง การจัดการรายวิชาและการแก้ไขรายวิชา การจัดการรายวิชาสามารถทาได้โดยเข้าไปที่ Edit setting ทางด้านขวามือของรายวิชา หรื อในเมนูการ จัดการระบบ

โดยแบ่ งเป็ น 8 หัวข้ อใหญ่ และแต่ ละหัวข้ อใหญ่ มีหัวข้ อย่ อย เพือ่ ใช้ ในการแก้ ไขข้ อมูลรายวิชา General Course full name ชื่อเต็มของรายวิชา Course short name ชื่อย่อของรายวิชา Course category ประเภทรายวิชา Visible การแสดงผล Course start date วันเริ่ มต้นการเรี ยนของรายวิชา Course ID number กาหนด ID number ให้กบั รายวิชา Description Course summary รายละเอียดของรายวิชา Course summary files ใส่ ไฟล์ เพื่อแสดงรายละเอียดของรายวิชา Course format Format กาหนดรู ปแบบของรายวิชา Number of sections จานวนสัปดาห์/หัวข้อ รายวิชา Hidden sections ส่ วนที่ซ่อนไว้ Course Layout รู ปแบบการแสดงรายวิชา Appearance Force theme บังคับการใช้ theme Force language ภาษาที่ใช้แสดงผล News items to show แสดง item ใหม่ Show gradebook to students แสดงคะแนนของนักเรี ยน Show activity reports แสดงรายงานของ activity Files and uploads Maximum upload size (ขนาดไฟล์ สูงสุ ด) ขนาดของไฟล์สูงสุ ดที่สามารถทาการอัพโหลด Guest access Allow guest access อนุญาตให้ guest เข้าใช้งาน Password กาหนดพาสเวิร์ดเข้าใช้งาน Groups Group mode กาหนดในโหมดกรุ๊ ป

Force group mode บังคับการใช้โหมดกรุ๊ ป Default grouping ค่า default การใช้งานกรุ๊ ป Role renaming Your word for ‘Manager’ กาหนดเป็ น Manager Your word for ‘Course creator’ กาหนดเป็ น Course creator Your word for ‘Teacher’ กาหนดเป็ น Teacher Your word for ‘Non-editing teacher’ กาหนดเป็ น Non-editing teacher Your word for ‘Student’ กาหนดเป็ น Student Your word for ‘Guest’ กาหนดเป็ น Guest Your word for ‘Authenticated user’ กาหนดเป็ น Authenticated user Your word for ‘Authenticated user on frontpage’ กาหนดเป็ น Authenticated user on frontpage ท่านสามารถแก้ไขข้อมูลรวมทั้งเพิ่มส่ วนงานต่างๆ ในรายวิชาได้ดว้ ยการ คลิกเลือก เริ่มการแก้ไขใน หน้ านี้ (Turn edit on) ทางด้านบน และเมนูดา้ นข้างของระบบ ระบบจะแสดงข้อมูลที่ได้ต้ งั ค่าไว้

และสามารถทาการเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ดังรู ป

12

2.5 การกิจกรรมและแหล่งเรียนรู้ในรายวิชา (Activities and Resources) อาจารย์ผู้สอนต้องเพิ่มเนื้อหารายวิชาเข้าไปในรายวิชาที่จะสอน ซึ่งเนื้อหารายวิชาจะมีการเพิ่มข้อมูล 2 ส่วนคือ 1. Activities กิจกรรมต่าง ๆ ในการเรียนการสอน และ 2. Resource แหล่งข้อมูล โดย Activities กิจกรรมการเรียนการสอน สามารถเพิ่มได้ ดังภาพที่ 13 และ Resource สามารถเลือกเพิ่มได้ดังภาพที่ 14 คาอธิบาย Assignment : การมอบหมายงาน Chat : ห้องสนทนาออนไลน์ Choice : ตอบคาตอบเดียวลักษณะเหมือน Poll Database : ฐานข้อมูล External Tool : แหล่งเรียนรู้และกิจกรรมจากเว็บไซต์อื่น Forum : กระดานเสวนา Webboard Glossary : คาศัพท์ ลักษณะคล้ายดิกชันนารี Lesson : เนื้อหาแบบบทเรียน Quiz : แบบทดสอบ SCORM package : บทเรียนที่อยู่ในรูปของ SCORM Survey : แบบสารวจ Wiki : วิกิพีเดีย Workshop : มอบหมายงานเป็นกลุ่ม ภาพที่ 13 เครื่องมือในการเพิ่มกิจกรรม (Activities) คาอธิบาย Book : บทเรียนแบบหลายหน้าคล้ายหนังสือ File : ไฟล์ข้อมูลต่างๆ เช่น ไฟล์เอกสาร ไฟล์นาเสนอ เป็นต้น Folder : สร้าง Folder เพื่อจัดเก็บไฟล์ต่างๆในแต่ละหัวข้อการสอน IMS content package : IMS เป็นมาตรฐานไฟล์บทเรียนที่จะนามาใช้ร่วมกัน Label : ป้ายชื่อต่างๆ อาจจะเชื่อมโยงไปยังเว็บเพจ หรือสื่อมัลติมีเดียต่างๆ Page : หน้าเว็บเพจ URL : เชื่อมโยงไปยังแหล่งข้อมูลในเว็บไซต์ หรือไฟล์วิดีโอจาก YouTube ภาพที่ 14 เครื่องมือในการเพิ่มแหล่งเรียนรู้ (Resource)

Satien Janpla

Computer Science

Suan Sunandha Rajabhat University

13

โครงสร้างของรายวิชา ประกอบไปด้ วย บล็อคส่วนหัว ถัดไปจะเป็นบล็อคของเนื้อหาและกิจกรรมเป็นราย สัปดาห์ หรือ รายหัวข้อ ตาม Course Format ตามที่ได้เลือกไว้ตอนสร้างรายวิชา ในบล็อกแต่ละสัปดาห์จะมี Add an activity or resource อยู่เพื่อเพิ่มแหล่งข้อมูลหรือกิจกรรมการเรียนการสอน การเพิ่มเนื้อหารายวิชา สาหรับการเพิ่มเนื้อหารายวิชาในขณะที่กาลังอยู่ในหน้าของรายวิชามี ขั้นตอนดังนี้ ให้คลิกที่ Turn editing on เพื่อเข้าสู่โหมดการแก้ไขก่อนแล้วถ้าต้องการจะเพิ่มข้อมูลที่รายสัปดาห์ไหน ก็เลือนไปที่บล็อคนั้นแล้วคลิกที่ Add an activity or resource ของบล็อคนั้น ดังในภาพที่ 15 1. Turn editing on

บล็อคส่วนหัวของรายวิชา 2. Add an activity or resource

บล็อคเนื้อหาและกิจกรรม

ภาพที่ 15 โครงสร้างของรายวิชาและการเพิ่มแหล่งข้อมูลและกิจกรรม

2.5.1 การเพิ่มคาอธิบายแต่ละสัปดาห์ /หัวข้อ กรณีที่ต้องการแสดงคาอธิบายให้ผู้ใช้งานเห็นได้ทันทีในหน้าโครงสร้างเนื้อหารายวิชา โดยที่ไม่ต้อง คลิกเข้าไปดูคาอธิบายในลักษณะของเมนูนั้น สามารถเพิ่มคาอธิบายรายละเอียดโดยการคลิกที่รูปไอคอน (รูปไอคอนอาจจะเปลี่ยนไปตามรูปแบบเว็บ ) เพื่อเข้าสู่หน้าจอการใส่คาอธิบายแต่ละสัปดาห์หรือหัวข้อ ดัง ภาพที่ 16 หัวข้อของแต่ละสัปดาห์จะเป็น วันแรกของสัปดาห์ ถึง วันสุดท้ายของสัปดาห์นั้น ซึ่งเว็บไซต์จะกาหนดมาให้ โดยเริ่มตั้งแต่วันแรกของการเริ่มเรียนของรายวิชานั้นๆ ที่ได้เลือกไว้ตอนสร้างรายวิชา

Satien Janpla

Computer Science

Suan Sunandha Rajabhat University

14

คาอธิบายรายสัปดาห์ เครื่องมือแก้ไข ภาพที่ 16 แสดงหัวข้อสัปดาห์และเครื่องมือแก้ไข เมื่อคลิกที่ปุ่มเครื่องมือ Edit Summary ( ) แล้วจะปรากฏหน้าจอดังภาพที่ 17 ต้องคลิกเครื่องหมาย ออก เพื่อที่จะสามารถพิมพ์ข้อความหัวข้อที่ต้องการลงไปได้ 1. เพื่อให้สามารถ พิมพ์ข้อความอื่นที่ ต้องการ 2. พิมพ์หัวข้อที่จะสอนใน แต่ละสัปดาห์/แต่ละหัวข้อ 3. พิมพ์สรุปเนื้อหาแต่ละ สัปดาห์/แต่ละหัวข้อ 4. Save changes

ภาพที่ 17 การเพิ่มหัวข้อแต่ละสัปดาห์/แต่ละหัวข้อ

Satien Janpla

Computer Science

Suan Sunandha Rajabhat University

15

2.5.2 การเพิ่มแหล่งเรียนรู้ (Resources) การเพิ่มแหล่งเรียนรู้หรือทรัพยากรการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนใช้สาหรับการอ่าน ฟัง ดู ชม เพื่อให้เกิด การเรียนรู้ต่าง ๆ ในระบบจึงได้ให้การเพิ่มแหล่งทรัพยากรได้หลายรูปแบบ เช่น  Page เป็นการเพิ่มเนื้อหาในลักษณะหน้าเว็บเพจ ที่สามารถปรับแต่งได้เหมือนกับหน้าเว็บไซต์ สามารถจัดข้อความ กาหนดสีตัวอักษร ใส่ลิงค์ แทรกภาพ หรือแทรกสื่อมัลติมีเดียได้ การเพิ่มเพจ เช่นการเพิ่ม จุดประสงค์การเรียนรู้ หรือการเพิ่มแหล่งเรียนรู้เป็น วิดีโอจากเว็บไซต์ยูทูป เป็นต้น วิธีการเพิ่มเพจ ดังภาพที่ 18

1. Add an activity or resource

2. Page 3. Add

ภาพที่ 18 การเพิ่ม Page เมื่อคลิก Add แล้วจะปรากฏหน้าป้อนข้อมูลขึ้นมา ให้ป้อนข้อมูลตามหัวข้อที่ปรากฏ ดังแสดงในภาพที่ 19 เมื่อป้อนข้อมูลครบแล้วให้ คลิกปุ่ม Save and return to course

Satien Janpla

Computer Science

Suan Sunandha Rajabhat University

16

1.

2.

พิมพ์ ช่ อื เนือ้ หา

พิมพ์ คาอธิบาย

3.

4.

พิมพ์ เนือ้ หา

Save and return to course

ภาพที่ 19 การพิมพ์เนื้อหาของเพจ

Satien Janpla

Computer Science

Suan Sunandha Rajabhat University

17

เมื่อบันทึกข้อมูลโปรแกรมก็จะกลับมาที่รายวิชาพร้อมกับปรากฏรายการข้อมูล จุดประสงค์การเรียนรู้บท ที่ 1 เป็นลิงค์เมื่อนาเมาส์ไปคลิกก็จะแสดงเพจเนื้อหาตามที่ได้ป้อนข้อมูลเข้าไป ดังภาพที่ 20

ภาพที่ 20 แสดงรายการเพจเนื้อหาที่เพิ่มเข้าไป Files การเพิ่มไฟล์เนื้อหา การเพิ่มเนื้อหา เช่น ไฟล์เอกสารประกอบการสอน (.doc, .pdf) ไฟล์สไลด์ประกอบการสอน (.ppt) วิธี การเพิมให้คลิกที่ Add an activity or resource > files > Add ก็จะปรากฏหน้าจอการป้อนข้อมูลดังภาพที่ 21 

Satien Janpla

Computer Science

Suan Sunandha Rajabhat University

18

1.

พิมพ์ ช่ อื เนือ้ หาของไฟล์

2.

3.

พิมพ์ คาอธิบาย

ไฟล์

4.

Save and return to course

ภาพที่ 22 การเพิ่มไฟล์

Satien Janpla

Computer Science

Suan Sunandha Rajabhat University

19

Multimedia การเพิ่มไฟล์ข้อมูลประเภทมัลติมีเดีย การเพิ่มไฟล์ข้อมูลมัลติมีเดีย ลงในเนื้อหารายวิชา สาหรับไฟล์มัลติมีเดียที่นามาใช้ในมูเดิ้ลนั้น อยู่ใน รูปแบบไฟล์ดังนี้ - .mp3 - MPEG Audio Stream, Layer III - .swf - Macromedia Flash Format File (Adobe, Inc.) - .mov - QuickTime Video Clip (Apple Computer, Inc.) - .wmv - Windows Media File (Microsoft) - .mpg - MPEG Animation - .avi - Audio Video Interleave File - .flv - Flash Video File (Macromedia, Inc.) - .ram - RealMedia Metafile (RealNetworks, Inc.) - .rpm - RealMedia Player Plug-in (RealNetworks) - .rm - RealMedia Streaming Media (Real Networks, Inc.) - .mp4 (in Moodle 1.9.6 onwards) - .m4v (in Moodle 1.9.6 onwards) - .ogg (in Moodle 2.0 onwards) - .ogv (in Moodle 2.0 onwards) ก่อนอื่นผู้ใช้งานจะต้องเปิดปลั๊กอินสาหรับการใช้งานไฟล์มัลติมีเดียก่อน โดยไปที่บล็อค Administration > Site administration > Plugins > Filters > Manage filters แล้วจะแสดงดังภาพที่ 23 โดยสังเกตุหัวข้อชื่อ “Multimedia Plugins” ในคอลัมน์ Active? จะต้องเป็น “on” ในคอลัมน์ Apply to ให้เลือกเป็น “Content” หรือ “Content and headings” 

Satien Janpla

Computer Science

Suan Sunandha Rajabhat University

20

ภาพที่ 23 แสดงการเปิด Filter “Multimedia plugins” การนาวิดีโอจาก YouTube มาใส่ในเนื้อหารายวิชา การนาวิดีโอจากเว็บไซต์ YouTube มาใส่ในเนื้อหารายวิชาสามารถทาได้ 2 วิธี วิธีที่ 1 นา Embed code มาใส่โดยไม่ต้อง Download ไฟล์วิดีโอมาจากเว็บไซต์ YouTube และวิธีที่ 2 การ Download ไฟล์วิดีโอมาแล้ว Upload เข้าไปยังรายวิชา แต่มีข้อจากัดคือขนาดของไฟล์วิดีโอจะต้องมีขนาดไฟล์น้อยกว่าที่ เว็บไซต์กาหนดไว้ (ปัจจุบันกาหนดไว้ 80 MB) การ Download ไฟล์วิดีโอจากเว็บไซต์ YouTube นั้นจะต้องใช้ โปรแกรม หรือใช้บริการจากเว็บไซต์ที่ช่วยในการ Download เช่น เว็บไซต์ Keepvid.com ต้องลงโปรแกรม Java ในเครื่องด้วย หรือใช้โปรแกรมช่วยในการ Download เช่น โปรแกรม YTD (YouTube Downloader) 

Satien Janpla

Computer Science

Suan Sunandha Rajabhat University

21

วิธีที่ 1 Embed Code มีขั้นตอนดังแสดงในภาพที่ 24 1. เข้าเว็บไซต์ YouTube

2. ใส่คาค้นหาวิดีโอที่ต้องการ

3. คลิกที่ Share 4. คลิกที่ Embed 5. เลือกทั้งหมดแล้ว Copy code

ภาพที่ 24 แสดงขั้นตอนการ copy embed code จากเว็บไซต์ YouTube เมื่อ Copy Code จากเว็บไซต์ YouTube แล้วจะต้องนา Code ไปใส่ในเนื้อหารายวิชา โดยเลือกการเพิ่มในบล็อค ของสัปดาห์หรือหัวข้อที่ต้องการ โดยเลือกการเพิ่ม Add Activities and resource > Resource > Page ขั้นตอนการเพิ่มดังแสดงในภาพที่ 25

Satien Janpla

Computer Science

Suan Sunandha Rajabhat University

22

1. ใส่ชื่อของแหล่งเรียนรู้ 2. ใส่รายละเอียดของแหล่ง เรียนรู้

3. คลิกที่ HTML

4. วาง Code ที่ Copy จากเว็บไซต์ YouTube ลงไปแล้วคลิกปุ่มยืนยัน จะปรากฏวิดีโอขึ้นมา

5. Save and return to course

ภาพที่ 25 แสดงขั้นตอนการเพิ่มวิดีโอจากเว็บไซต์ YouTube

Satien Janpla

Computer Science

Suan Sunandha Rajabhat University

23

วิธีที่ 2 การใช้โปรแกรม หรือ เว็บไซต์ Download ไฟล์วิดีโอจากเว็บไซต์ YouTube - Download โดยใช้เว็บไซต์ Keepvid.com มีขั้นตอนดังนี้ เข้าเว็บไซต์ keepvid.com copy URL ของ วิดีโอที่ต้องการ Download จากเว็บไซต์ YouTube มาใส่ในช่อง Download (Java จะทางานถ้ายังไม่ได้ ลง Java จะต้องติดตั้งก่อน) รอสักครู่จะปรากฏรายการวิดีโอให้ Download ให้เลือกโหลดไฟล์ที่เป็น FLV, MP4, WEBM ดังแสดงในภาพที่ 26 1. เข้าเว็บไซต์ keepvid.com

2. URL วิดีโอจาก YouTube

3. Download FLV

ภาพที่ 26 แสดงการ Download วิดีโอจากเว็บไซต์ YouTube ด้วยเว็บไซต์ keepvid.com - Download โดยใช้โปรแกรม YTD Video Downloader ขั้นแรกจะต้องติดตั้งโปรแกรม YTD ก่อน อาจจะใช้วิธีค้นจากเว็บไซต์ Google โดยใช้คาค้นว่า YouTube Video Downloader แล้วให้เลือกที่เว็บไซต์ http://youtubedownload.altervista.org/ เมื่อเข้าเว็บไซต์แล้วให้คลิกที่ Free Download แล้วรอจนกว่าจะ โหลดเสร็จ เมื่อโหลดไฟล์เสร็จแล้วให้ทาการติดตั้งโปรแกรม เมื่อติดตั้งเสร็จแล้วโปรแกรมจะเปิดขึ้นมาตามภาพที่ 27 เมื่อโปรแกรมเปิดขึ้นมาแล้วสามารถโหลดวิดีโอจากเว็บไซต์ YouTube ด้วยขั้นตอนต่อไปนี้ ไป Copy URL ของวิดีโอที่ต้องการจะ Download จากเว็บไซต์ YouTube แล้วนาไปวางลงในช่อง Paste URL แล้วคลิกที่ปุ่ม Download แล้วรอจนกว่าจะ Download เสร็จก็จะได้ไฟล์วิดีโอจากเว็บไซต์ YouTube ไฟล์วิดีโอจะอยู่ใน รูปแบบของไฟล์ .mp4

Satien Janpla

Computer Science

Suan Sunandha Rajabhat University

24

1. Paste URL จาก YouTube ลงไป

2. Download

ภาพที่ 27 โปรแกรม YTD video downloader และวิธีการ Download วิดีโอ สาหรับไฟล์วิดีโอที่ Download มานาใส่ในเนื้อหารายวิชา โดยเลือกการเพิ่มในบล็อคของสัปดาห์หรือหัวข้อที่ ต้องการ โดยเลือกการเพิ่ม Add Activities and resource > Resource > File Assignments การมอบหมายงาน เมื่อผู้สอนได้สอนเนื้อหาหรือได้กาหนดให้ผู้เรียนได้ศึกษาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่างๆ แล้วอาจจะมีการ มอบหมายงานให้ ศึก ษาค้น คว้ า จั ด ทาเป็ น รายงาน หรือ จัด ทาเป็ นสไลด์เ พื่อ การน าเสนอระบบก็ รองรั บการ มอบหมายงานหรือที่เรียกว่า Assignment ที่สามารถใส่ชื่องานที่มอบหมาย รายละเอียดของงาน จานวนไฟล์ที่จะ ให้ผู้เรียนส่งได้สูงสุดกี่ไฟล์ กาหนดคะแนน ระยะเวลาที่จะให้ส่งงาน เป็นต้น สามารถเพิ่มการมอบหมายงานด้วย คาสั่ง Add Activities and resource > Activity > Assignment > Add ดังภาพที่ 28 

Satien Janpla

Computer Science

Suan Sunandha Rajabhat University

25

1.

2.

พิมพ์ ช่ อื การมอบหมายงาน

พิมพ์ รายละเอียดของงาน

3.

4.

วัน-เวลาที่เริ่มให้ ส่งงานได้

วัน-เวลาที่สนิ ้ สุดการส่ งงาน

ภาพที่ 28 การมอบหมายงาน Satien Janpla

Computer Science

Suan Sunandha Rajabhat University

26

5.

6.

การส่ งงานแบบส่ งเป็ นไฟล์

จานวนไฟล์ สูงสุดที่ให้ upload ได้

ภาพที่ 28 การมอบหมายงาน (ต่อ) Satien Janpla

Computer Science

Suan Sunandha Rajabhat University

27

7.

คะแนน

8. Save and return to course

ภาพที่ 28 การมอบหมายงาน (ต่อ) Satien Janpla

Computer Science

Suan Sunandha Rajabhat University

28



Forum การเพิ่มกระดานเสวนา

Forum กระดานเสวนา หรือที่นิยมเรียกกันว่า Web board สามารถนามาใช้สาหรับเป็นกระดานถามตอบปัญหาในการเรียน ใช้เป็นพื้นที่สาหรับการอภิปรายโต้ตอบ การแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกันระหว่างผู้เรียน กับผู้เรียน การสอดแทรกความรู้เพิ่มเติมจากผู้สอน การตั้งคาถามจากผู้สอนไปยังผู้เรียน การใช้ Forum กระดาน เสวนา ผู้เรียนทุกคนจะเห็นข้อความและข้อมูลต่างๆ ที่โต้ตอบกันระหว่างผู้สอนกับผู้เรียน หรือระหว่างผู้เรียนกับ ผู้เรียน ทาให้สามารถติดตามหรือสามารถอภิปรายโต้ตอบได้ สามารถเพิ่ม Forum กระดานเสวนาด้วยคาสั่ง Add Activities and resource > Activity > Forum > Add การเพิ่ม Forum ดังภาพที่ 29

1.

2.

พิพม์ ช่ อื กระดานเสวนา

พิพม์ รายละเอียดกระดานเสวนา

3.

ขนาดไฟล์ สูงสุดที่จะให้ แนบได้

4.

จานวนไฟล์ สูงสุดที่จะให้ แนบได้

ภาพที่ 29 การเพิ่ม Forum กระดานเสวนา Satien Janpla

Computer Science

Suan Sunandha Rajabhat University

29

5.

ชนิดการให้ คะแนน

6.

จานวนคะแนน

ภาพที่ 29 การเพิ่ม Forum กระดานเสวนา(ต่อ) Satien Janpla

Computer Science

Suan Sunandha Rajabhat University

30

7.

Save and return to course

ภาพที่ 29 การเพิ่ม Forum กระดานเสวนา(ต่อ) 2.6 Quiz การเพิ่มแบบทดสอบ การสร้างแบบทดสอบ มี 2 ขั้นตอน ในขั้นตอนแรกสร้างกิจกรรมแบบทดสอบและตั้งค่าตัวเลือกซึ่ง กาหนดหลักเกณฑ์สาหรับการสอบ ขั้นตอนที่ 2 การเพิ่มคาถามสาหรับแบบทดสอบ คาถามแต่ละข้อสามารถตั้งค่า ได้และสามารถเลือกคาถามแบบเจาะจง หรือจะเลือกแบบสุ่มก็ได้ในแบบทดสอบ การเพิ่มแบบทดสอบสามารถทา ได้ดังนี้ ให้เข้าไปที่หน้าโครงสร้างของรายวิชาแล้ว Turn editing on > Add an activity or resource > Quiz รายละเอียดการกาหนดค่าแบบทดสอบดังภาพที่ 30

Satien Janpla

Computer Science

Suan Sunandha Rajabhat University

31

1. ชื่อแบบทดสอบ 2. คาชี้แจงแบบทดสอบ 3. วัน/เวลา ที่ให้เริ่มสอบได้ 4. วัน/เวลา สิ้นสุดการสอบ

5. เวลาที่ใช้ในการสอบกี่นาที 6. จานวนครั้งที่ให้สอบ

7. จานวนข้อต่อหน้า 8. ให้แสดงคะแนน

ภาพที่ 30 การกาหนดค่าแบบทดสอบ

Satien Janpla

Computer Science

Suan Sunandha Rajabhat University

32

9. กาหนดรหัสผ่านก่อนเข้าสอบ

10. Save and display

ภาพที่ 30 การกาหนดค่าแบบทดสอบ(ต่อ)

Satien Janpla

Computer Science

Suan Sunandha Rajabhat University

33

ขั้นตอนที่ 2 การเพิ่มข้อสอบ หลังจากที่ได้ กาหนดค่าแบบทดสอบแล้ว ก็จะเป็นการเพิ่มข้อสอบหรือ คาถาม สามารถทาได้ 2 วิธี วิธีแรกการสร้างคาถามด้วยเครื่องมือในการสร้างคาถามจากเว็บไซต์ และวิธีที่สอง การ สร้างคาถามจากภายนอกโดยใช้โปรแกรม Notepad แล้ว Import เข้าไป วิธีนี้จะสามารถสร้างข้อมูลได้จานวน มากตามที่ต้องการ สะดวกในการแก้ไขมากกว่าวิธีแรก การ Import ข้อสอบเข้าสู่ระบบจะต้องพิมพ์ข้อสอบด้วย โปรแกรม Notepad ตามรูปแบบที่ MOODLE กาหนดซึ่งมีให้เลือกหลายรูปแบบ เช่น - Aiken format - Blackboard - Embedded answers (Cloze) - Examview - Gift format - Learnwise format - Missing word format - Moodle XML format - WebCT format รูปแบบที่แนะนา คือ Gift format เนื่องจากสามารถสร้างคาถามได้หลายชนิด เช่น ปรนัย(Choice), ถูกผิด, จับคู่, เติมคาในช่องว่าง ฯลฯ รูปแบบการสร้างคาถามแบบปรนัย Gift format ข้อใดมีโครงสร้างของประโยคเหมือนประโยคตัวอย่าง 1. โจทย์ “ปากกาบนโต๊ะคงหายไป” { 2. เครื่องหมายปีกกาเปิด { ~ ขนมในถุงมีหลายอย่าง 3. ~ สาหรับตัวเลือกที่ผิด ~ เสื้อในตู้สวยทุกตัว ~ หนังสือในตู้ใครหยิบไป 4. = สาหรับตัวเลือกที่ถูก = ต้นไม้ในกระถางกาลังโตขึ้น } 5. เครื่องหมายปีกกาปิด } คาว่า “พูด” ในภาษากรุงเทพฯ มีใช้ต่างออกไปในภาษาถิ่นอื่น เช่น ภาษาเหนือใช้ “อู้” ภาษาอีสาน ใช้ “เว่า” ข้อใดอธิบายลักษณะของภาษาดังกล่าวข้างต้น { 6. เว้น 1 บรรทัด แล้วพิมพ์ ~ภาษาเป็นสิ่งที่มนุษย์ใช้สื่อความหมาย โจทย์ =ภาษาถิ่นหมายถึงภาษาที่แตกต่างกันตามถิ่นที่อยู่ ข้อต่อไป ~เสียงในภาษาไม่จาเป็นต้องสัมพันธ์กับความหมาย ~ลักษณะของภาษาถิ่นต้องแตกต่างกับภาษามาตรฐาน } คาถามแบบปรนัย Gift format Satien Janpla

Computer Science

Suan Sunandha Rajabhat University

34

รูปแบบการสร้างคาถามแบบถูก-ผิด Gift format 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9.

คอมพิวเตอร์หมายถึงเครื่องคานวณ {T} Ada Augusta คือโปรแกรมเมอร์คนแรกของโลก {T} William Augtred คิด Slide Rule สาหรับคอมพิวเตอร์แบบดิจิตอล {F} John Napier คือบิดาแห่งคอมพิวเตอร์ของโลก {F} เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องแรกของโลกคือ EDVAC และ EDSAC {T} คาถามถูก-ผิด Gift format

รูปแบบการสร้างคาถามแบบจับคู่ Gift format จงจับคู่เดือนภาษาอังกฤษที่มีความหมายตรงกัน. { =January -> มกราคม =February -> กุมภาพันธ์ =March -> มีนาคม =April -> เมษายน =May -> พฤษภาคม =June -> มิถุนายน =July -> กรกฏาคม =August -> สิงหาคม =September -> กันยายน =October -> ตุลาคม =November -> พฤศจิกายน =December -> ธันวาคม } คาถามจับคู่ Gift format Satien Janpla

Computer Science

Suan Sunandha Rajabhat University

35

รูปแบบการสร้างคาถามแบบเติมคา Gift format 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9.

ครูให้นักเรียนคัดลายมือด้วยตัว {=บรรจง} เต็มบรรทัด บรรจง), บันจง ,บรรค์จง( {=บรรยากาศ} ของงานเลื้ยงวันนี้ดูคึกคักเป็นพิเศษ บรรยากาส), บรรยากาศ,บันยากาศ ( คนโบราณเชื่อว่าเทวดาเป็นผู้ {=บันดาล} ให้ฝนตกลงมา บันดาร), บันดาล ,บรรดาล( เช้าวันเสาร์ท้องฟ้าแจ่มใส {=อากาศ} สดชื่น อากาศ),อากาส(อากาด. ฉันคุยกับเพื่อนขณะรอพระฉัน {=ภัตตาหาร} เพล อาหาร),ภัตตาหาร,ภัตษาหาร(

คาถามเติมคา Gift format เมื่อพิมพ์ข้อสอบด้วย Notepad เสร็จแล้วจะต้อง Save แล้วกาหนด Encoding type เป็น UTF-8 เพื่อให้การแสดงข้อความภาษาไทยแสดงได้อย่างถูกต้อง เมื่อเตรียมไฟล์ข้อสอบไว้เรียบร้อยแล้วต่อไปเป็นขั้นตอน การนาข้อสอบเข้าสูระบบ (Import) ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้ สร้างประเภท เพื่อแยกคาถามออกเป็นบท หรื อเป็นเรื่อง ๆ ไปคาถามจะได้ไม่ปนกัน เวลานามาทดสอบจะได้เลือกคาถามได้ง่าย ขึ้นตอนการสร้างประเภทมีขั้นตอนดังนี้ Question bank > Categories แล้วสร้างประเภทขึ้นมาตามที่ต้องการ เมื่อสร้างประเภทเสร็จแล้วก็จะเป็น ขั้นตอนการนาเข้าคาถาม(Import) มีขั้นตอนดังนี้ Question bank > Import และกาหนดรายละเอียดต่างๆ ตามภาพที่ 32

Satien Janpla

Computer Science

Suan Sunandha Rajabhat University

36

1. เลือกรูปแบบไฟล์คาถาม

2. เลือกกลุ่มที่จะนาเข้า

3. เลือกไฟล์คาถามที่จะนาเข้า หรือ ลากไฟล์มาปล่อยในช่อง drag and drop

4. Import

ภาพที่ 32 การนาเข้าคาถามจากไฟล์ Satien Janpla

Computer Science

Suan Sunandha Rajabhat University

37

เมื่อคลิกปุ่ม Import แล้วถ้าคาถามในไฟล์ถูกต้องตามรูปแบบจะแสดงคาถามที่นาเข้าขึ้นมาเพื่อให้ตรวจสอบถาม ถูกต้อง ถ้าถูกต้องให้คลิกที่ Continue ดังในภาพที่ 33

ภาพที่ 33 แสดงคาถามที่กาลังจะนาเข้า เมื่อนาเข้าไฟล์คาถามบทที่ 1 เรียบร้อยแล้วก็ให้นาเข้าไฟล์คาถามบทอื่นๆ ต่อไปจนครบ

Satien Janpla

Computer Science

Suan Sunandha Rajabhat University

38

หลังจากที่ได้นาเข้าคาถามครบเรียบร้อยแล้วต่อไปเป็นการนาคาถามเข้าสู่แบบทดสอบให้คลิกที่ Edit Quiz ให้ เลือกคาถามเข้าสู่แบบทดสอบโดยให้เลือกประเภทคาถามก่ อนแล้วเลือกว่าจะนาเข้าคาถามข้อใดบ้างหรือจะเลือก คาถามแบบสุ่มจานวนกี่คาถาม ดังแสดงในภาพที่ 34

3. จานวนคะแนน ของแบบทดสอบ

1. เลือกประเภท

2. เลือกจานวนข้อ คลิก Add to quiz

ภาพที่ 34 การเลือกคาถามเข้าแบบทดสอบ Satien Janpla

Computer Science

Suan Sunandha Rajabhat University

39

เมื่อบันทึกคะแนนสอบเสร็จแล้วให้กลับไปที่หน้าโครงสร้างรายวิชา จะเห็นหัวข้อแบบทดสอบปรากฏอยู่ ให้คลิกเข้าไป ระบบจะแจ้งให้ทราบวัน/เวลาในการสอบและเวลาในการสอบให้คลิกที่ปุ่ม เริ่มการสอบ ระบบจะทา การแสดงคาถามขึ้นมาตามที่ได้กาหนดไว้ ดังในภาพที่ 35

ภาพที่ 35 แสดงการทาแบบทดสอบ Satien Janpla

Computer Science

Suan Sunandha Rajabhat University

mannual-lms20-3-58.pdf

There was a problem previewing this document. Retrying... Download. Connect more apps... Try one of the apps below to open or edit this item.

6MB Sizes 12 Downloads 105 Views

Recommend Documents

No documents