Reproductive system Reproduction Asexual reproduction

sexual reproduction

- budding

- fertilization

- fission - transverse binary fission - longitudinal binary fission - sporulation

- flagmentation

Asexual reproduction

การสืบพันธุ์โดยที่เซลล์ตั้งต้นเพียงเซลล์เดียว จะมีการแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส (mitosis) เพื่อผลิตเซลล์ลูกออกมา 2 เซลล์ ที่มีลักษณะทางพันธุกรรมเหมือนสาร ตั้งต้นทุกประการ โดยไม่มีการปฏิสนธิเกิดขึ้น การแตกหน่อ (budding) = เป็นการแบ่งเซลล์แยกไปจากเซลล์เดิม จากนั้นมีการ พัฒนาเป็นเซลล์ใหม่ ได้แก่ ไฮดรา (hydra), ฟองน้้า (sponge), ยีสต์ (yeast), มันฝรั่ง (potato)

ไบนารีฟิสชั่น (binary fission) = เป็นการแบ่งเซลล์จากเซลล์ตั้งต้นเซลล์เดียว ออกเป็นเซลล์ลูกสองเซลล์โดยเซลล์ลูกแต่ละเซลล์มีขนาดเท่าๆกัน แบ่งเป็น 2 ประเภท

- transverse binary fission = เซลล์ตั้งต้นมีการแบ่งเซลล์ตามขวางได้เซลล์ลูก สองเซลล์เท่ากัน ได้แก่ พารามีเซียม (paramecium) - longitudinal binary fission = เซลล์ตั้งต้นมีการแบ่งเซลล์ตามยาวได้เซลล์ลูก สองเซลล์ขนาดเท่ากัน ได้แก่ ยูกลีนา (euglena)

Sporulation = เป็นการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศพบได้ในสิ่งมีชีวิตพวกรา fragmentation = เป็นการหักเป็นท่อนๆ หรือขาดจากส่วนเดิม แล้วท่อนที่ขาดไป

สามารถพัฒนาต่อไปได้ ดังนั้นกระบวนการที่เกิดต่อเนื่องกับแฟรกเมนเทชัน คือ การงอกใหม่ (regeneration) ได้แก่ ดาวทะเล (sea star), พลานาเรีย (planaria), ไส้เดือนดิน (earthworm)

sexual reproduction เป็นการผลิตสิ่งมีชีวิตที่เกิดขึ้นจากการรวมกันของเซลล์สืบพันธุ์ (gamete) โดย เซลล์สืบพันธุ์นี้จะมีโครโมโซมเป็นแฮพลอยด์ (haploid,n) ดังนั้นในการสืบพันธุ์ แบบอาศัยเพศจึงจ้าเป็นที่จะต้องมีกระบวนการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ (gametogenesis) เกิดขึ้น โดยในกระบวนการสร้างเซลล์สืบพันธุ์จะมีการแบ่ง เซลล์แบบไมโอซิส (meiosis) เกิดขึ้นด้วยเสมอ เพื่อสร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้ คือ อสุจิ (sperm) หรือ เซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย คือ ไข่ (egg) จากนั้นจะต้องมีการ รวมกันของเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้และเซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย เรียกว่า การปฏิสนธิ (fertilization) เกิดขึ้น เพื่อที่จะได้ไซโกต (zygote) หรือเป็นไข่ที่ได้รับการ ปฏิสนธิเรียบร้อยแล้ว (fertilized egg) ออกมา ซึ่งจะมีโครโมโซมเป็นดิพลอยด์ (diploid,2n)

Reproduction of plant พืชดอก (angiosperm) จะมีการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ โดยโครงสร้าง ของพืชดอกประกอบไปด้วย เกสรเพศผู้ (stamen) เกสรตัวเมีย (carpel or pistil) กลีบดอก (petal) กลีบเลี้ยง (sepal) ฐานรองดอก (receptacle) ก้านดอก (peduncle) เกสรตัวผู้ --> อับเรณู (anther)

--> ก้านชูอับเรณู (filament) เกสรตัวเมีย --> ยอดเกสรตัวเมีย (stigma) --> ก้านชูเกสรตัวเมีย (style) --> รังไข่ (ovary) ภายในมี ออวุล (ovule)

Gametogenesis Male = ภายในอับเรณู ประกอบด้วยอับละอองเรณู (pollen sac) 4 อัน ที่ผนังด้านในของอับละอองเรณูประกอบไปด้วยชั้นของเซลล์ที่ท้าหน้าที่สร้าง อาหาร (tapetum) ภายในอับละอองเรณู มีเซลล์ตั้งต้นคือ ไมโครสปอร์มาเทอร์เซลล์ (microspore mother cell)

microspore mother cell (2n) --> meiosis --> microspore (n) --> mitosis --> generative cell (n) + tube cell (n) *** generative cell + tube cell = ละอองเรณู (pollen or pollen grain or male gametophyte) *** Female = ภายในออวุล มีสารตั้งต้นคือ เมกะสปอร์มาเทอร์เซลล์ (megaspore mother cell) Megaspore mother cell (2n) --> meiosis --> megaspore (n) 4 cell สลายไป 3 --> 3 mitosis --> 7 cell 8 nucleus ต้าแหน่งต่างๆ ของ 7 cell 8 nucleus ด้าน micropyle มีเซลล์มาเรียงตัว 3 เซลล์ ตรงกลางพัฒนาเป็น

เซลล์ไข่ (egg cell) เซลล์ที่ขนาบข้างเซลล์ไข่ 2 เซลล์ เรียกว่า ซินเนอร์จิดเซลล์ (synergid cell) ส่วนด้านตรงข้าม egg cell เรียกว่า antipodal มีเซลล์มาเรียงตัว 3 เซลล์ แต่ละเซลล์ เรียกว่า แอนติโพดัลเซลล์ (antipodal cell) นิวเคลียสที่เหลืออีก

2 นิวเคลียสจะเคลื่อนที่มาอยู่ตรงกลางเกิดเป็น โพลาร์นิวคลิไอ (polar nuclei) โครงสร้างทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้ เรียกว่า ถุงเอมบริโอ (embryo sac)

Fertilization เกิดการถ่ายละอองเรณู (pollination) --> tube nucleus งอกเป็นท่อยาวลงไปในก้านชูเกสรตัวเมีย เพื่อไปยังรังไข่ --> generative nucleus แบ่งนิวเคลียสแบบ mitosis ได้เป็น 2 สเปิร์มนิวเคลียส (sperm nuclei) --> 2 sperm nuclei เคลื่อนที่ไปยังถุงเอมบริโอ --> 1 sperm nuclei (n) + egg cell (n) = zygote (2n) --> 1 sperm nuclei (n) + polar nuclei (2n) = endosperm (3n)

*** จะเห็นได้ว่าเกิดการปฏิสนธิ 2 ครั้ง เรียกการปฏิสนธิในพืชดอกนี้ว่า การปฏิสนธิซ้อน (double fertilization) ***

Human reproduction Male reproduction system --> สร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศ ชาย หรืออสุจิ (sperm) male reproductive organ ประกอบด้วย อัณฑะ (testis) ท่ออิพิดิไดมิส (epididymis) ท่อน้าอสุจิ (vas deferens 0r ductus deferens) ต่อมสร้างน้้าเลี้ยงอสุจิ (accessory gland) ลึงค์ (penis) ถุงหุ้มอัณฑะ (scortum)

อัณฑะ (testis) เป็นอวัยวะสร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศชาย (male gonad) ท้าหน้าที่หลักในการสร้างตัวอสุจิ ลักษณะของอัณฑะเป็นรูปไข่ 2 อัน อยู่นอกช่องท้อง และถูกหุ้มไว้ด้วยถุงหุ้มอัณฑะ ภายในอัณฑะจะแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่เป็นท่อ (tubular compartment) และส่วนอยู่ที่ระหว่างท่อ (interstitial compartment) tubular compartment = ประกอบไปด้วยท่อผลิตตัวอสุจิ (seminiferous tubule) ซึ่งภายในท่อผลิตตัวอสุจิจะเป็นบริเวณที่เกิดกระบวนการ สร้างตัวอสุจิ (spermatohenesis) ท่อผลิตตัวอสุจิประกอบไปด้วยเซลล์ต่างๆหลายชนิด ได้แก่ * เซลล์ที่อยู่รอบท่อ (peritubular cell) ช่วยในการบีบตัวของท่อเพื่อขนส่งตัวอสุจิให้เคลื่อนที่ไปตามท่อ * เซอทอลิเซลล์ (sertoli cell) ท้าหน้าที่ในการสร้างอาหารให้แก่ตัวอสุจิ และยังช่วยเก็บกินไซโทพลาซึม ส่วนเกินออกจากตัวอสุจิในช่วง กระบวนการเปลี่ยนแปลงรูปร่างอสุจิ * เจอร์มินัลเซลล์ (germinal cell) เป็นเซลล์ที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปเป็นตัวอสุจิ interstitial compartment = ประกอบไปด้วย เลย์ดิกเซลล์ (leydig cell) ท้าหน้าที่ในการสร้างฮอร์โมนเพศชาย (androgen) ซึ่งฮอร์โมน เพศชายตัวส้าคัญที่สร้างมาจากเลย์ดิกเซลล์ ได้แก่ ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (testosterone)

กระบวนการสร้างตัวอสุจิ (spermatogenesis)

มี 2 ขั้นตอน ได้แก่ 1. spermatocytogenesis = กระบวนการแบ่งเซลล์เพื่อสร้างอสุจิ เริ่มตั้งแต่ spermatogonium --> spermatid 2. Spermiogenesis = กระบวนการเปลี่ยนแปลงรูปร่าง เกิดในช่วงที่ spermatid มีการเปลี่ยนแปลงเป็น sperm เกิดขึ้นในท่อผลิตตัวอสุจิ เริ่มจากเซลล์ตั้งต้นที่ติดกับผนังท่อผลิตตัว อสุจิ คือ spermatogonium spermatogonium (2n) --> mitosis --> primary spermatocyte (2n) --> meiosis --> 2 secondary spermatocyte (n) --> meiosis --> 4 spermatid (n) spermatid มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างเป็น sperm or spermatozoa

โครงสร้างอสุจิ แบ่งเป็น ส่วนหัว (head) ส่วนตัว (body) และส่วนหาง (tail)

ส่วนหัว ประกอบด้วยนิวเคลียสที่ภายในบรรจุสารพันธุกรรม หัวของตัวอสุจิถูก หุ้มด้วย acrosome ซึ่งภายในจะบรรจุเอนไซม์อยู่ ซึ่งมีคุณสมบัติใน การย่อยสลายผนังด้านนอกของเซลล์ไข่ (zona pellucida) เพื่อที่ตัว

อสุจิจะได้เคลื่อนที่ตัวเข้าไปในเซลล์ไข่ได้ ส่วนตัวและส่วนหาง ท้าหน้าที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนที่ของตัวอสุจิ โดยส่วนหางประกอบไป ด้วย flagellum ส่วนตัวประกอบด้วย microtubule ท้าหน้าที่ให้

พลังงานช่วยในการขับเคลื่อน จุดเชื่อมต่อระหว่างส่วนหัวและตัวจะมี centriole อยู่

ท่อน้าอสุจิ (vas deferens) ท้าหน้าที่ในการขนส่งตัวอสุจิ โดยท่อน้าอสุจิจะอยู่รวมกับโครงสร้างอื่น ได้แก่ testicular artery, testicular vein, เส้นประสาท, หลอด น้้าเหลือง และ cremaster muscle เรียกรวมว่า spermatid cord

อิพดิ ไิ ดมิส (epididymis) เป็นท่อขดอยู่บริเวณผิวด้านนอกของอัณฑะประกอบด้วย head of epididymis, body epididymis, tail epididymis or caudal epididymis ท้าหน้าที่ในการขนส่งอสุจิ เก็บ อสุจิ และบริเวณ tail epididymis เป็นส่วนส้าคัญที่ตัวอสุจิมีการเจริญพัฒนาที่สมบูรณ์ (sperm maturation)

ต่อมสร้างน้า้ เลีย้ งอสุจิ (accessory gland) อสุจิ + ของเหลวจากต่อมสร้างน้้าเลี้ยงอสุจิ = น้้าเชื้อ (semen)

ประกอบด้วย seminal vesicle = ผลิตของเหลวออกมาประมาณ 60% ของน้้าเชื้อ ทั้งหมด โดยของเหลวที่ผลิตออกมาจะมีลักษณะข้นเหนียว ประกอบไป ด้วยน้้าตาลฟรุกโทส (fructose) ท้าหน้าที่เป็นแหล่งอาหารหลักให้แก่

ตัวอสุจิช่วยให้พลังงานแก่ตัวอสุจิ นอกจากนี้ยังผลิตสาร prostaglandin ท้าหน้าที่กระตุ้นการบีบตัวของอวัยวะในระบบสืบพันธุ์ เพศหญิง ช่วยในการเคลื่อนที่ของตัวอสุจิไปยังมดลูก prostate gland = ผลิตของเหลวประมาณ 30% ของน้้าเชื้อ

ของเหลวที่ผลิตออกมามีฤทธิ์เป็นเบสลักษณะคล้ายน้้านม มีหน้าที่ช่วย กระตุ้นการเคลื่อนที่ของตัวอสุจิให้ดีขึ้น ป้องกันตัวอสุจิจากปัสสาวะที่มี สภาพเป็นกรดในท่อปัสสาวะ และช่วยลดความเป็นกรดในระบบ สืบพันธุ์เพศหญิง cowper’s gland or bulbourethral gland = ผลิตของเหลวที่มีฤทธิ์ เป็นเบสออกมาประมาณ 10% ของน้้าเชื้อ ท้าหน้าที่เคลือบท่อปัสสาวะ และหล่อลื่นบริเวณปลายลึงค์ ลึงค์ (penis) ประกอบไปด้วยเนื้อเยื่อที่แข็งตัวได้ (erectile tissue) ได้แก่ corpus cavernosum และ corpus spongiosum ซึ่งมีหลอดเลือด แดงขนาดเล็กมาเลี้ยงจ้านวนมากกระบวนการแข็งตัวของลึงค์ (penile erection) เกิดขึ้นจากการที่มีการส่งกระแสประสาทมากระตุ้นหลอด เลือดแดงขนาดเล็กท้าให้เกิดการขยายขนาดของหลอดเลือด (vasodilation) ส่งผลให้มีเลือดมาเลี้ยงที่หลอดเลือดบริเวณนี้ปริมาณ มาก ท้าให้เกิดการคลั่งของเลือดภายในหลอดเลือดตรงลึงค์จึงเกิดการ แข็งตัวของลึงค์ตามมา ถุงหุม้ อัณฑะ (scrotum)

ในเพศชายเริ่มต้นอัณฑะจะถูกสร้างขึ้นมาภายในช่องท้องตั้งแต่ช่วงอยู่ใน

การเคลือ่ นที่ของตัวอสุจจิ ะเริม่ จากท่อผลิตตัวอสุจิ

ครรภ์มารดา และอัณฑะจะค่อยๆเคลื่อนที่ออกมาอยู่นอกช่องท้องภายในถุง

Epididymis --> Vas deferens --> ejaculatory duct

หุ้มอัณฑะตั้งแต่ก่อนคลอด เนื่องจากอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อกระบวนการ

--> urethra

สร้างตัวอสุจิประมาณ 34 ๐C ซึ่งต่้ากว่าอุณหภูมิร่างกาย ดังนั้นอัณฑะจึง

ต้องอยู่ห่างออกมาจากร่างกายและถูกห่อหุ้มไว้ด้วยถุงหุ้มอัณฑะเพื่อควบคุม อุณหภูมิภายในอัณฑะให้เหมาะสมต่อการสร้างตัวอสุจิ

female reproductive organ

ประกอบด้วย รังไข่ (ovary) ท่อน้าไข่ (oviduct or uterine tube or fallopian tube) มดลูก (uterus)

ช่องคลอด (vagina) อวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก (vulva)

ovary รังไข่ จัดว่าเป็นอวัยวะสืบพันธุ์เพศหญิง (female gonad) มี 2 ข้าง ภายในรังไข่แต่ละข้างจะประกอบด้วย oocyte ที่มีการเจริญอยู่หลายระยะ โดย oocyte จะถูกล้อมรอบด้วย granulosa cell โดยโครงสร้างที่ประกอบไปด้วย oocyte + granulosa cell เรียกว่า follicle เมื่อเพศหญิงเข้า สู่วัยเจริญพันธุ์ (puberty) รังไข่จะปล่อย oocyte ที่สมบูรณ์ออกมาเซลล์หนึ่ง เรียกว่าเกิดการตกไข่ (ovulation) รังไข่มีหน้าที่สร้างเซลล์ไข่และ ฮอร์โมนเพศหญิง

กระบวนการสร้างเซลล์ไข่ (oogenesis) ในช่วงที่ตัวอ่อนอยู่ในครรภ์มารดา เซลล์ตั้งต้นในกระบวนการสร้างเซลล์ ไข่คือ oogonium

oogonium (2n) --> mitosis --> primary oocyte (2n) (หยุดที่ระยะ prophase ของ meiosis I) เข้าสูว่ ยั เจริญพันธุ์ primary oocyte (2n) --> meiosis I --> first polar body (n) +

secondary oocyte (n) (หยุดที่ระยะ metaphase ของ meiosis II) oocyte ที่ตกออกมาจากรังไข่เมื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เป็นต้นไปเป็น oocyte ที่พัฒนาสมบูรณ์มากที่สุดในรังไข่และเป็น secondary oocyte ที่มีการแบ่งเซลล์ค้างอยู่ในระยะ meiosis II

เมือ่ อสุจเิ ข้ามาปฏิสนธิ secondary oocyte (n) --> meiosis II --> 1 ovum (n) + 1 second polar body (n) (สลายไป) first polar body (n) --> meiosis II --> 2 second polar body (n) (สลายไป) ** หลังจากตกไข่ไปแล้ว ภายในรังไข่จะมี corpus luteum เกิดขึ้น ** ท่อน้าไข่ (oviduct or uterine tube or fallopian tube) ส่วนต้นของท่อมีลักษณะบานออกคล้ายปากแตร ท้าหน้าที่รองรับไข่ที่ตกลงมาจากรังไข่ เป็นบริเวณที่มีการปฏิสนธิเกิดขึ้น มดลูก (uterus) เป็นบริเวณที่มีการตั้งท้องเกิดขึ้น ผนังมดลูกมีความหนาเป็นชั้นกล้ามเนือ้ เรียบ (myometrium) ส่วนผนังด้านในของมดลูก (endometrium) มีความส้าคัญเนื่องจากเป็น บริเวณที่มีการฝังตัวของตัวอ่อน ถ้าไม่มีการปฏิสนธิ ผนังของมดลูกจะลอกหลุด (menstruation) เกิดเป็นประจ้าเดือนซึ่งเห็นเป็นเลือดออกมาจากระบบสืบพันธุ์เพศ

หญิง ส่วนล่างของมดลูกคือปากมดลูก (cervix) เป็นส่วนที่ต่อออกไปยังช่องคลอด ช่องคลอด (vagina) ผนังบาง แต่มีความแข็งแรงเนื่องจากมีส่วนประกอบของกล้ามเนื้อ เป็นส่วนที่ยื่นออก ไปสู่อวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก ท้าหน้าที่เป็นทางผ่านของตัวอสุจิเข้าสู่ระบบสืบพันธุ์เพศ

หญิง และเป็นทางผ่านออกของทารกเมื่อเกิดการคลอด อวัยวะสืบพันธุภ์ ายนอก (vulva) ประกอบไปด้วย แคมนอก (labia majora), แคมใน (labia minora), ต่อมเวสทิบูล (vestibular gland) ท้าหน้าที่หลั่งเมือกมาหล่อลื่นอวัยวะสืบพันธุ์ , เยื่อไฮเมน

(hymen) อยู่บริเวณรอบๆทางเปิดข้าวของช่องคลอด และ คลิทอริส (clitoris) เป็น เนื้อเยื่อที่แข็งตัวได้ (erectile tissue) เช่นเดียวกับลึงค์ในเพศชาย เนื่องจากมีจุด ก้าเนิดมาจากเนื้อเยื่อชนิดเดียวกันในช่วงที่มีการพัฒนาของตัวอ่อน

วงรอบในระบบสืบพันธุเ์ พศหญิง (female reproductive cycle) แบ่งได้เป็น 2 แบบคือ วงรอบการเปลี่ยนแปลงของรังไข่ (ovarian cycle) และวงรอบการเปลี่ยนแปลงของมดลูก (menstrual cycle or uterine cycle) โดยรอบในระบบสืบพันธุ์เพศหญิงจะเกิดขึ้นทุกๆ 28 วัน หรือ 4 สัปดาห์

วงรอบการเปลีย่ นแปลงของรังไข่ (ovarian cycle) เป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและองค์ประกอบภายในรังไข่ น้าไปสู่การตกไข่ ซึ่งจะประกอบไปด้วย 2 ระยะ ได้แก่ 1. ระยะที่มีการพัฒนาของฟอลลิเคิล เกิดขึ้นก่อนตกไข่ (follicular phase or preovulatory phase) เกิดขึ้นในระยะเวลา 14 วัน หรือ 2 สัปดาห์แรกของ วงรอบ ในระยะนี้จะมีการเจริญของฟอลลิเคิล ตั้งแต่ไพรมารี ฟอลลิเคิล พัฒนากลายเป็นเซคอนดารีฟอลลิเคิล เมื่อสิ้นสุดระยะนี้จะมีการตกไข่ (ovulation) เกิดขึ้น

2. ระยะที่มีคอร์ปัสลูเทียมเกิดขึ้นหลังตกไข่ (luteal phase or postovulatory phase) ในระยะนี้จะเกิดขึ้นในระยะเวลา 14 วัน หรือ 2 สัปดาห์หลังของ วงรอบการเปลีย่ นแปลงของมดลูก (menstrual cycle or uterine cycle)

วงรอบ ช่วงนี้จะมีการเจริญของคอร์ปัสลูเทียมเกิดขึ้นภายในรังไข่

เป็นการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อบริเวณผนังมดลูกด้านในเพื่อเตรียมพร้อมรองรับการฝังตัว

ของตัวอ่อนถ้ามีการปฏิสนธิเกิดขึ้น 1. Menstrual phase = ระยะที่มีการลอกของผนังมดลูกด้านใน วันแรกที่เข้าสูร่ ะยะนี้จะตรง กับวันแรกที่เข้าสู่ระยะที่มีการพัฒนาของฟอลลิเคิล โดยจะมีการหลุดลอกของผนังมดลูก ออกมาเกิดเป็นสิ่งคัดหลั่งที่ประกอบไปด้วยเศษเซลล์เยื่อบุผนังมดลูก เลือดและเมือก ออก

ผ่านช่องคลอดออกมาสู่ภายนอก ระยะนี้จะใช้เวลา 1 สัปดาห์ 2. Proliferative phase = ระยะที่มีการสร้างผนังมดลูกด้านในขึ้นมาใหม่ ระยะนี้เซลล์เยื่อบุ ผนังมดลูกด้านในจะมีการสร้างขึ้นมาทดแทนเซลล์ที่ลอกหลุดไปก่อนหน้านี้ ใช้ระยะเวลา ประมาณ 1 สัปดาห์ สิ้นสุดระยะนี้จะตรงช่วงที่เกิดการตกไข่พอดี 3. Secretory phase = ระยะที่มีการหนาตัวของผนังมดลูกและหลั่งสารต่างๆออกมา เป็น ระยะที่ผนังมดลูกด้านในจะมีการเจริญพัฒนาเกิดการหนาตัวมากที่สุด เพื่อที่จะสามารถรองรับ การฝังตัวของตัวอ่อนได้ถ้ามีการปฏิสนธิเกิดขึ้น

การปฏิสนธิ (fertilization)

เป็นกระบวนการรวมตัวกันของอสุจิและไข่ โดยเมื่ออสุจิ เคลื่อนที่เข้ามาในระบบสืบพันธุ์เพศหญิงแล้วจะว่ายไปยังท่อน้า ไข่ซึ่งมี secondary oocyte รออยู่ จากนั้นหัวอสุจิจะเคลื่อนที่ ไปแตะที่บริเวณผนังด้านนอกโอโอไซต์ (zona pellucida)

acrosome ที่อยู่บริเวณหัวอสุจิจะฉีกขาดออก ปล่อยเอนไซม์ ภายในออกมาย่อยสลาย zona pellucida ท้าให้อสุจิสามารถ เคลื่อนที่เข้าไปใน oocyte ได้ โดยที่อสุจิตัวแรกเท่านั้นที่จะ สามารถเคลื่อนที่เข้าไปยังผนังด้านใน oocyte ได้ หลังจากที่

อสุจิตัวแรกเข้าไปแล้วจะกระตุ้นให้มีการเปลี่ยนแปลงทางเคมี เกิดขึ้นที่ผนังด้านนอกของเซลล์ไข่ เพื่อป้องกันไม่ให้อสุจิตัวอื่น เคลื่อนที่เข้ามาได้อีก อสุจิที่เข้าไปภายใน oocyte จะกระตุ้นให้ secondary oocyte ที่มีการแบ่งเซลล์ค้างอยู่ที่ระยะเมตาเฟส

ของการแบ่งเซลล์ไมโอซิสครั้งที่สอง เกิดการแบ่งเซลล์ต่อจน เสร็จสิ้น เกิดเป็นเซลล์ไข่ (ovum) ที่สมบูรณ์ออกมา 1 เซลล์ และเกิดเป็นเซลล์ขนาดเล็กที่เรียกว่า polar body 3 เซลล์ ซึ่งต่อไปเซลล์ polar body จะเสื่อมสลายไป

การคุมก้าเนิด (contraception)

เป็นการป้องกันไม่ให้มีการตั้งท้องเกิดขึ้น โดยวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดคือการท้าหมัน ซึ่งสามารถท้าได้ทั้งเพศชายและหญิง การท้าหมันในเพศชาย สามารถท้าได้โดยการตัดและผูกท่อน้าอสุจิ (vasectomy) ส่วนการท้าหมันในเพศหญิงจะท้าโดยการตัดและผูกท่อน้าไข่ (uterine ligation) นอกจากนี้ยังมี การคุมก้าเนิดโดยวิธีอื่นๆ ได้แก่ การใช้ยาเม็ดคุมก้าเนิด การใช้อุปกรณ์ขัดขวางการเคลื่อนที่ของตัวอสุจิ เช่น ห่วงคุมก้าเนิด ถุงยางอนามัย ซึ่งจะมี ประสิทธิภาพในการคุมก้าเนิดต่้ากว่าการท้าหมัน

Reproductive system.pdf

Page 1 of 7. Bohol Profile. Bohol. Basic Facts. Geographic Location Bohol is nestled securely at the heart of the Central. Visayas Region, between southeast of Cebu and southwest. of Leyte. Located centrally in the Philippine Archipelago, specifically. within north latitude 9030' and 10015' and east longitude. 123040' and ...

3MB Sizes 44 Downloads 219 Views

Recommend Documents

Reproductive Health.pdf
at PHC. 1+2+3=6. 6. How will you diagnose premature rupture of. membranes? What are its complications ? 3+3=6. 7. Enumerate the aetiology of rupture uterus.

REPRODUCTIVE HEALTH.pdf
Show advertisements such as happy couple with two children with a slogan ... The hormone releasing IUDs make the uterus unsuitable for. implantation. 4. Pills.

REPRODUCTIVE HEALTH.pdf
There was a problem previewing this document. Retrying... Download. Connect more apps... Try one of the apps below to open or edit this item.

Do helpers increase reproductive success? - Springer Link
As shown in Table 1, the experimental removal of potential helpers had no detectable effect on the sur- vival, reproductive effort, and hatching success of Flori- da scrub jays. Thus, no adverse consequences of the removals were detectable until afte

Cancer, Reproductive, Cardiovascular and Other Chronic Disease ...
and Health Administration, National Toxicology. Program ... and Other Hazardous Drugs in Healthcare Set- ... mental Medicine and American College of Ob-.

Cancer, Reproductive, Cardiovascular and Other Chronic Disease ...
Generated information used by the Occupa- tional Safety and ... ing on currently available information. ... Create multimedia training on occupational risks for ...

Reproductive Endocrinologist Los Angeles.pdf
Our Los Angeles, California, fertility clinic established the first IVF (in vitro ... Beach, Oceanside, Rancho Cucamonga, Pasadena, Westlake Village and West Los.

2_7 GI & Reproductive Effects Section.pdf
Marijuana use in Colorado is highest among individuals of reproductive age. Analysis of 2015 data from the BRFSS, completed for this report, estimated that 26 ...

[C152.Ebook] PDF Download Reproductive System (Quickstudy ...
Mar 1, 2001 - Click link bellow and free register to download ebook: REPRODUCTIVE ... Illustrations by award-winning medical illustrator Vincent Perez. Chart includes ... Dimensions: .6" h x 11.00" w x 8.50" l, .10 pounds q. Binding: ...