FITM NEWS
4
ปีที่ 1 ฉบับที่ 4 ตุลาคม 2556
จุดเริ่มต้น...บนปลายทาง >> เข้าใจใหม่ ให้ถูกต้อง วันแห่งการเริ่มต้น Commencement Day >> 10 ตัวเลขมหัศจรรย์กับวันรับปริญญา จุดเริ่มต้น...บนปลายทาง >> เคล็ดลับความสำ�เร็จ ประสบความสำ�เร็จ...ก่อนจบ “ปริญญาตรี”
F ront view กลับมาพบกันอีกครั้งในฤดูฝนพรำ� ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทัศนียภาพของคณะสวยจับใจ คืนใดที่ฝนตก เช้าวันรุ่งขึ้นอาจเห็นหมอกเป็นเข็มขัดเส้นใหญ่ สีขาวทาบทาอยู่บนภูเขาเบื้องหน้า ภาพนี้เห็นครั้งใดก็ประทับใจทุกครั้ง ถึงแม้จะเป็นภาพที่ บก. เห็นจนเจนตามาเกือบจะเท่าอายุของคณะก็ตาม ...FITM NEWS ฉบับนีม้ าในธีม “17 ปีคณะเทคโนโลยีและการจัดการ อุตสาหกรรม” เนื่องจากวันที่ 6 สิงหาคม 2556 นี้ จะเป็นวัน คล้ายวันสถาปนาคณะ ครบรอบ 17 ปี ฉบับนี้จึงเสนอเรื่องราว ของคณะที่ผ่า นมาในแต่ละลำ�ดับเวลาในคอลัม น์ Main dish ผู้ บ ริ ห ารชุ ด ปั จ จุ บั น ของคณะมาปรากฏหน้ า หล่ อ และสวย พร้อมกับปณิธานทีม่ งุ่ มัน่ ในคอลัมน์ Today’s story โลโก้ของคณะ ก็เปิดตัวกันที่นี่เป็นที่แรก ติดตามได้เลยในคอลัมน์ Extraordinary ในนามของคณะเทคโนโลยี แ ละการจั ด การอุ ต สาหกรรม ขอกราบขอบพระคุณ ผู้ช่วยศาสตราจารย์วรวิทย์ จตุรพาณิชย์ และผู้ ช่ ว ยศาสตราจารย์ พี ร ะศั ก ดิ์ เสรี กุ ล อดี ต คณบดี คณะเทคโนโลยีและการจัดการอุตสาหกรรม ทีก่ รุณาเขียนคำ�นิยม เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาคณะลงในวารสารฉบับนี้ ขอบคุณ ด้วยสำ�หรับอาจารย์นิติการ นาคเจือทอง ช่างภาพโก้ และชมรม Photo มจพ.ปราจีนบุรี ที่รังสรรค์ภาพสวย ๆ ของคณบดีและรองคณบดีทั้งสี่ รวมถึงภาพปกวารสาร ท้ายสุดขอขอบคุณคณาจารย์ เจ้าหน้าที่ ศิษย์ เก่า และศิษย์ปัจจุบัน ที่ร่วมสร้างประวัติศาสตร์แห่งคณะเทคโนโลยีและการจัดการอุตสาหกรรม รวมถึงร่วมเป็นก้าวที่กล้าจวบจนเข้าสู่ปีที่ 18
บรรณาธิการ
สารบัญ Front view…………………………………………..2 I was there…………………………………………3
Not only (teach)…………………………………….6
ทริ ป นี ้ . ..ที ่ ป ารี ส
Extraordinary…………………………………………..7
Today’s story…...………………………………..4
ประสบความสำ � เร็ จ ...ก่ อ นจบ “ปริ ญ ญาตรี “
Main Dish….....……………………………….....5
Who What Where When………………………….8 See you soon…………………………………………2
วั น แห่ ง การเริ ่ ม ต้ น ...Commencement Day จุ ด เริ ่ ม ต้ น ...บนปลายทาง
วิ ธ ี ฮ ิ ว ริ ส ติ ก ส์ ส ำ � หรั บ วางผั ง โรงงานในระบบผลิ ต แบบ Flowshop
S ee you soon
ไ ม่ว่าคุณจะเป็นศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน หรือผู้มาเยือน
ร่วมสนุกกับเราง่าย ๆ เพียงส่งภาพประทับใจในวันรับปริญญาของคุณ พร้อมคำ�บรรยายสั้น ๆ มาที่ www.facebook.com/FitmNews ภาพและคำ�บรรยายโดนใจ 20 ท่าน รับไปเลยของที่ระลึกจากเรา ติดตามรายชื่อผู้โชคดีได้ที่ www.facebook.com/FitmNews FITM NEWS 2 FITM NEWS
คณะเทคโนโลยี แ ละการจั ด การอุ ต สาหกรรม มหาวิ ท ยาลั ย เทคโนโลยี พ ระจอมเกล้ า พระนครเหนื อ 129 หมู ่ 21 ตำ � บลเนิ น หอม อำ � เภอเมื อ ง จั ง หวั ด ปราจี น บุ ร ี 25230 โทร 0-3721-6500-4 ต่ อ 7034 e-mail:
[email protected] facebook: www.facebook.com/fitmnews
I was there
ทริปนี้...ที่ปารีส เรื่อง: อาจารย์ พิเชษฐ์ สุขเสกสรรค์ ภาควิชาเทคโนโลยีการออกแบบผลิตภัณฑ์และจัดการอุตสาหกรรม
ฉบับนี้เป็นรอบของผมที่จะมาเขียนคุยประสบการณ์ที่ได้ไปนำ�เสนอผล
งานในต่างประเทศได้อ่านแบบ “ไม่เอาความ” กัน ผมปรึกษากับเพื่อนอาจารย์ท่ีนั่ง ทำ�งานห้องเดียวกัน ก็ได้รับการแนะนำ�ว่าผมน่าจะเขียนเกี่ยวกับการเตรียมตัวไปงาน ประชุมวิชาการ ว่าจะต้องเตรียมอะไรกันบ้าง ตั้งแต่ การเขียนโครงการ การขออนุมัติ ตัว การทำ�หนังสือเดินทางราชการ การขอวีซ่า การหาตั๋วเครื่องบิน การหาที่พัก การเตรียมข้อมูลเพื่อเดินทางภายในประเทศ (ประเทศปลายทางนะครับ) ซึ่งผมว่าก็ดี แฮะ เพราะการเดินทางที่ผ่านมาผมจัดการเรื่องเอกสารเองทั้งหมด ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ผมได้ไปนำ�เสนอผลงานวิจัยลักษณะการบรรยาย (Oral Presentation) (ผมขอใช้คำ�นี้ตามที่กองบริการการศึกษาใช้ในการทำ�เรื่องขออนุมัติเรื่องทุนอุดหนุนจาก มหาวิทยาลัย) ที่เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส ครั้งนั้นเป็นงานประชุมวิชาการ The International Conference on Tourism, Transport and Logistics 2013 โดยผมได้นำ�บทความของผมในเรื่อง “Regional Transportation Infrastructure Connectivity : the Concerns on Thailand’s CBTI Facilities Development” ไปนำ�เสนอ สำ�หรับเนื้อหาและบรรยากาศการประชุม ผมจะพูดสรุปไว้ตอนท้ายๆ ให้อ่านครับ หลังจากที่ผมได้รับจดหมายตอบรับการไปนำ�เสนอผลงานแล้ว สิ่งแรกที่ต้องทำ�คือ ต้อง ทำ�เรื่องขออนุมัติตัวบุคคลจากมหาวิทยาลัยผ่านทางคณะและหาทุนสนับสนุน ผมต้องทำ�เอกสาร “โครงการพัฒนาบุคลากรเพือ่ การนำ�เสนอบทความวิชาการในต่างประเทศ” โดยเนือ้ หาทีส่ �ำ คัญในเอกสาร นี้ก็จะเป็นเรื่องหลักการและเหตุผล วัตถุประสงค์ สถานที่ ผู้เข้าร่วมโครงการ การดำ�เนินการ ระยะเวลา งบประมาณ และประโยชน์ทคี่ าดว่าจะได้รบั เสร็จจากส่วนนัน้ ก็มาเตรียมเอกสารทีต่ อ้ งขอให้มหาวิทยาลัย ช่วยดำ�เนินการ ทำ�เป็นบันทึกข้อความผ่านคณะเช่นเคยครับ ในเอกสารก็ระบุว่าเราจะให้มหาวิทยาลัย ดำ�เนินการเรื่องอะไรบ้าง เช่น ให้มีหนังสือไปยังกรมการกงศุลเพื่อขอหนังสือเดินทางฉบับราชการ ให้มี หนังสือไปยังกระทรวงการต่างประเทศเพื่อออกหนังสือรับรองการไปปฏิบัติราชการต่างประเทศและขอ วีซา่ ในกรณีประเทศฝรัง่ เศส หากเรามีหนังสือนำ�จากกระทรวงการต่างประเทศเราจะไม่ตอ้ งเสียค่าใช้จา่ ย ใดๆ ในการขอวีซ่า (ค่าใช้จ่ายประมาณ 4,000 บาท) เมื่อได้รับหนังสือเดินทางมาแล้ว ก็จะเป็นเรื่องการขอวีซ่า (สำ�หรับประเทศฝรั่งเศสเป็น Schengen Visa) ในส่วนนี้มีงานเอกสารอีกหลายชิ้นที่ต้องเตรียม ซึ่งรายละเอียดเรื่องเอกสารที่ต้องเตรี ยมเราสามารถหาข้อมูลได้จากเว็บไซต์ของบริษทั TLScontract ซึง่ เป็นบริษทั ทีส่ ถานทูตฝรัง่ เศสมอบหมาย ให้เป็นผู้ประสานงานแทนสถานทูตในเรื่องการรับเรื่องและรับเอกสาร นอกจากเตรียมเอกสารให้ครบตาม รายการแล้ว เอกสารใด ๆ ที่เป็นภาษาไทยต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษทุกชิ้นครับ เช่น จดหมายรับรอง การทำ�งาน เอกสารแสดงสถานะทางการเงิน ใบทะเบียนสมรส (กรณีที่พาคู่สมรสไปด้วย) ดังนั้น หากมี เอกสารใดที่ต้องให้หน่วยงานออกให้ใหม่ ก็ให้หน่วยงานออกเป็นภาษาอังกฤษเสียเลย ที่จะยากและยุ่ง น่าจะเป็นเอกสารพวกที่ออกมาได้แค่ครั้งเดียว เช่น ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส พวกนี้ถ้าเค้าขอ เราก็ ต้องมีฉบับแปลให้เค้าครับ แล้วจะให้ใครแปล??? ครับถ้าไม่ติดเรื่องต้องมีค่าใช้จ่าย จ้างครับ จ้างบริษัท/ บุคคลที่เค้าได้รับการรับรองและสามารถลงนามรับรองการแปลของเค้าได้นะครับ (ไม่ถูก (แพง) นะครับ ที่ผมเข้าใจ) แต่ในส่วนของผม ผมแปลเองครับ แล้วใครรับรองให้ผมล่ะครับ อันนี้ผมตอบอย่างเป็นคำ� ตอบทั่วไปไม่ได้ครับ แต่สำ�หรับฝรั่งเศสนั้น บริษัท TLScontract อนุญาตให้ผมประทับตราคณะเป็นการ รับรองได้ ถึงตอนนี้เราไปขอวีซ่ากัน ยังครับ!!! ยังไม่ได้ครับ เรายังไม่มีตั๋วเครื่องบิน ใบจองที่พัก/ โรงแรม เราต้องทำ�สองเรื่องนี้ก่อนครับ เราจะเริ่มกันอย่างไร ในเรื่องตั๋วเครื่องบิน เรายังไม่จำ�เป็นต้องไป ซือ้ ตัว๋ เครือ่ งบินครับ เราสามารถติดต่อบริษทั ขายตัว๋ โดยสารทีเ่ ค้าสามารถออกใบจอง (ฺBooking) ตัว๋ เดิน ทางให้เราได้ครับ ในช่วงการจองนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ แต่จะมีระยะเวลาให้เรายืนยัน ซึ่งหากเลยกำ�หนด เวลาบริษัทก็จะยกเลิกการจองนะครับ ดังนั้นเราอาจต้องวางแผนช่วงนี้ดีๆ คือ ควรรีบขอวีซ่าในระหว่าง ที่การจองของเรายังไม่ถึงเวลายืนยัน ซึ่งหากสถานทูตปฏิเสธการออกวีซ่าให้เรา เราก็ไปยกเลิกการจอง แต่ถ้าเราไปซื้อตั๋วเดินทางเลยหรือเรายืนยันว่าจะเดินทาง (ขั้นตอนนี้มีค่าใช้จ่ายแล้วครับ คือ เราต้องจ่าย ค่าตั๋วเดินทางเลย) เราอาจต้องเสียค่าตั๋วเดินทางฟรีๆ ครับ หรือแย่สุดก็อาจต้องเลื่อนการเดินทาง รอ ขอวีซ่าใหม่ ซึ่งก็มีค่าใช้จ่ายในการเลื่อนเวลาการเดินทางครับ เรื่องตั๋วเดินทางน่าจะมีเท่านี้ ทีนี้มาเรื่อง การจองโรงแรม/ที่พัก ในขั้นตอนนี้สำ�หรับการเดินทางของผม ผมได้กัลยาณมิตรแนะนำ�ประเภทโรงแรม สถานที่ตั้ง การเดินทาง เพื่อที่เราจะได้เดินทางสะดวกในระหว่างอยู่ที่นั่น แต่สุดท้ายเงื่อนไขเดียวที่ผมใช้
คือเลือกที.่ ...........ราคาต่�ำ ทีส่ ดุ ครับ ซึง่ ก็ตอ้ งใช้เวลาพอสมควรเพราะมีจดุ ทีต่ อ้ งตัดสินใจอีกแล้วว่าผมจะ เลือกจองแบบสามารถคืนเงินจอง (Refund) ได้ หรือเลือกที่ราคาต่ำ�กว่าแต่ไม่สามารถคืนเงินจองได้หาก เปลี่ยนใจไม่เข้าพัก สำ�หรับผม...ยังยึดมั่นจุดยืนเดิมคือเน้นประหยัด ดังนั้นผมจึงเลือกแบบที่ราคาต่ำ�กว่า แต่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงกำ�หนดการเข้าพักได้ ณ จุดนี้ ผมได้รับความเสี่ยงเพิ่มที่หากวีซ่าไม่ผ่าน ผม ก็ต้องเสียเงินค่าที่พักชนิดเรียกคืนไม่ได้ อ้อ! ขอเพิ่มเติมเรื่องการเลือกที่พักครับ เราต้องดูเรื่องการเดินทางภายในด้วยนะครับ ดูว่า เราจะใช้ระบบขนส่งมวลชนแบบใดตอนอยู่ที่นั่น เช่น รถไฟฟ้า รถประจำ�ทาง รถแท็กซี่ หรือเดินเท้า อย่าง หลังสุดถือว่าธรรมดามากครับในต่างประเทศ แต่บา้ นเราไม่คอ่ ยมีใครเดินกัน พวกนีเ้ ป็นเรือ่ งค่าใช้จา่ ยครับ สำ�หรับฝรั่งเศสหรือประเทศที่มีระบบการขนส่งมวลชนดีๆ ใช้รถไฟฟ้าง่ายสุดครับ เราสามารถเข้าใจเส้น ทางได้ง่าย ไม่มีหลง (อาจจะ) ที่สำ�คัญเมื่อเปรียบเทียบกับรูปแบบอื่น ไม่รวมเดินเท้า ผมว่าน่าจะประหยัด สุดครับ ทีว่ า่ มานีไ้ ม่รวมถึงพวกโปรโมชัน่ ตัว๋ วัน ตัว๋ สัปดาห์ และแนวทางการประหยัดได้อกี คือการหาทีพ่ กั ให้อยู่ในรอบวงเส้นทางเดียวกับสถานที่ที่เราจะไปครับ ยาวมาถึงตรงนี้ ตอนนี้เอกสารการจองตั๋วเครื่องบินและที่พักพร้อมที่จะนำ�มาประกอบการ ขอวีซ่าแล้วครับ ซึ่งถึงตอนนี้เราน่าจะพร้อมยื่นขอวีซ่าได้แล้วครับ ในส่วนกิจกรรมหลักๆ ก่อนการเดิน สำ�หรับส่วนท้ายนี้ ผมขอเขียนถึงเรือ่ งทีเ่ กีย่ วกับงานประชุมทีผ่ มเข้าร่วมนะครับ ในการประชุม นี้ผู้จัดวางกรอบใหญ่ๆ ไว้เกี่ยวกับเรื่อง “Challenges and Opportunities of Increasing Global Connectivity” โดยเน้นไปที่งานศึกษาใน 3 ด้าน คือ การท่องเที่ยว การขนส่ง และโลจิสติกส์ การประชุมนี้มี 4 มหาวิทยาลัยร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดงาน (ไทย 1 และ เทศ 3) เกี่ยวกับงานของผมซึ่งเป็นการศึกษารูป แบบการขนส่งที่เน้นรองรับการขนส่งระหว่างภูมิภาค ในเรื่องนี้ Japan International Cooperation Agency (JICA) ได้เรียกการขนส่งระบบนีว้ า่ การขนส่งข้ามแดน (Cross-Border Transportation) ในกรอบใหญ่ของการ ศึกษาเป็นการพูดถึงองค์ประกอบที่จะต้องพิจารณาหากต้องการที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการขนส่ง ข้ามแดน (Cross-border Transportation Infrastructure - CBTI) นี้ โดยการพิจารณาองค์ประกอบเหล่านี้หาก เป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบนี้ เราจะ มองหรือพิจารณาเพียงแค่ตวั เอง (ผมหมายถึง เฉพาะประเทศไทย) ไม่ได้แล้ว แต่เราจะต้อง พิจารณาถึงประเทศเพือ่ นบ้านด้วย ยกตัวอย่าง ง่าย ๆ หากเราต้องการพัฒนาโครงข่ายการ ขนส่ ง ทางถนนเพื่ อ เพิ่ ม โอกาสให้ กั บ ภาค อุตสาหกรรมของไทยที่จะมีต่อประเทศเพื่อน บ้าน (ในที่นี้ลองนึกถึง ประเทศกัมพูชา ก็ได้ครับ ใกล้ดี) ซึ่งเราคาดหวังและคิดทำ�โครงการใหญ่โต (ลอง จินตนาการต่อไปอีกหน่อยครับ) และหากเราทำ�สำ�เร็จ แต่ปรากฏว่าอีกฝั่งด้านหนึ่งกับประเทศเรากลับไม่มี โครงข่ายทีด่ พี อทัง้ ในรูปของคุณภาพและปริมาณ เท่ากับว่าส่วนทีเ่ ราพยายามทำ�และลงทุนไป จะไม่สามารถ สร้างประโยชน์ได้เต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นการพัฒนา CBTI จะต้องอาศัยความร่วมมือกันของประเทศที่มี อาณาเขตติดต่อกัน โดยต้องร่วมมือตั้งแต่ระดับนโยบายจนถึงปฏิบัติการ นอกจากนี้งานที่ผมนำ�เสนอยัง มีกรอบการศึกษาอันน้อยๆ ซ้อน อยู่ด้วย โดยผมพยายามประเมินระดับการพัฒนาโครงสร้างการขนส่ง ข้ามแดนของประเทศไทยและระบุวา่ มีองค์ประกอบด้านใดบ้างทีถ่ อื ว่าอยูใ่ นเกณฑ์ทดี่ แี ละไม่ดี เพือ่ คนทีส่ นใจ สามารถนำ�ข้อมูลเหล่านี้ไปประกอบการพิจารณาได้ ในที่นี้ผมเน้นไปที่รูปแบบการขนส่งทางถนน ทางทะเล และทางอากาศ ซึง่ ในส่วนนีผ ้ มใช้วธิ กี ารวิเคราะห์องค์ประกอบ (Factor Analysis) เป็นเครือ่ งมือในวิเคราะห์ สำ�หรับผลการศึกษาผมขอไม่เขียนคุยไว้ในที่นี้นะครับ เพราะเกรงว่าจะไม่มีพื้นที่พอให้ลงทั้งหมด ดังนั้น ผมขอจบห้วนๆ ไว้ตรงนี้แล้วกันครับ
FITM NEWS 3
T oday’s story
วันแห่งการเริ่มต้น
“Commencement Day”
“Commencement Day” วันจบการศึกษาเป็นวันที่นักศึกษาทุกคนรอคอย เพราะ แสดงให้เห็นว่าเราได้อดทน พากเพียรเรียนจนจบและเป็นวันทีป่ ระกาศ ให้เห็นถึงความสำ�เร็จทัง้ หมดทัง้ ปวงทีเ่ ราได้พยายามมาตลอดหลาย ปี ได้สนิ้ สุดลงแล้วในวันนี้ แม้กว่าการเรียนจะสิน้ สุดลงในวันจบการ ศึกษา แต่การเรียนรู้ต่างๆ ในชีวิตจริงยังไม่จบสิ้น เพราะการจบการ ศึกษานัน้ ยังเป็นเพียงความสำ�เร็จก้าวแรก ทีเ่ ราเพิง่ เริม่ ต้นเท่านัน้ เรา เองยังต้องเผชิญกับโลกแห่งความเป็นจริง ทีเ่ ราต้องดึงเอาความรูท้ ี่ เราได้ร่ำ�เรียนมาใช้ในการทำ�งาน ซึ่งจริงๆ แล้ว “Commencement Day” เป็นแค่เพียงวันแห่งการเริม่ ต้นเท่านัน้ เพราะว่าอนาคตหลังจาก การจบการศึกษายังอีกยาวไกล ถ้าจะให้แปลกันตรงตัวละก็ คำ�ว่า commence เป็นคำ�กริยาซึง่ แปลว่าเริม่ ต้น ฉะนัน้ Commencement Day ก็แปลได้อย่างง่ายๆ ว่า วันแห่งการเริ่มต้น ซึ่งเรามักเข้าใจว่าเป็นวัน จบการศึกษาหรือสิน้ สุดการเรียนเท่านัน้ เราจึงไม่ใช้ค�ำ ว่า Graduation Day แต่จะใช้ค�ำ ว่า Commencement Day ต่างหาก ซึง่ ในวันแห่งความ สำ�เร็จนี้เอง ก็จะมาคู่กับการแสดงความยินดี หากเราต้องการแสดง ความยินดีกบั บัณฑิต ก็จะใช้ค�ำ ว่า Congratulations! ซึง่ คำ�นีต้ อ้ งเติม s ด้วยทุกครั้ง
4 FITM NEWS
M ain dish
จุดเริ่มต้น...บนปลายทาง
ฤดูกาลนี้เป็นช่วงเวลาของการรับปริญญาของบัณฑิตใหม่ Main Dish ฉบับนี้จะพาไปรู้จักกับตัวเลข 1 ถึง 10 ที่มีความเกี่ยวข้องกับพิธีพระราชทานปริญญาบัตร
หนึ่ง...
พระมหาพิชัยมงกุฎ เครื่องทรงของพระมหากษัตริย์แห่งประเทศไทยตั้งแต่สมัยโบราณ จนถึงปัจจุบัน สร้างขึ้นในรัชกาลที่ “1” การใช้พระมหามงกุฎหรือพระมหาพิชยั มงกุฎ เป็นเครือ่ งหมายประจำ�สถาบันการศึกษานัน้ ต้องได้รบั พระบรมราชานุญาตจากพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือเป็นสถาบันการศึกษาที่ใช้พระมหามงกุฎเป็นสัญลักษณ ซึ่งในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรก็จะมีการอันเชิญพระมหาพิชัยมงกุฎมาประกอบพิธีด้วย
บัณฑิตทุกท่านทีเ่ คยเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรมาแล้วก็คงจะทราบดีวา่ ก่อนทีเ่ ราจะเอือ้ มมือไปรับปริญญาบัตรนัน้ จะต้องก้าวเท้า “2” ก้าว ไปยืนหยุดต่อหน้าพระพระพักต์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
สาม...
มี “3” พระจอมเกล้าเท่านัน้ ทีไ่ ด้รบั พระราชทานครุยสีแดงจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ภูมพิ ลอดุลยเดช ในการเข้ารับพระราชทาน ปริญญาบัตร นั่นก็คือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และสถาบัน เทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือของเรานั้นได้ใช้นาม พระจอมเกล้า เป็นชื่อมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นพระนามของ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหามงกุฎฯ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ รัชกาลที่ “4” นั่นเอง
ห้า...
...หก
สถานที่ที่ใช้สำ�หรับฝึกซ้อมย่อยของบัณฑิตทุกคนในการฝึกซ้อมก่อนรับพระราชทานปริญญาบัตร จะใช้หอประชุมประดู่แดง อาคาร อเนกประสงค์ ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีสถานที่ตั้งอยู่ใกล้กับสะพานพระราม “7”
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ กรุงเทพมหานคร ทีต่ งั้ ของสถานทีฝ ่ กึ ซ้อมย่อยของบัณฑิต อยูใ่ นแขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร มีอาคารเรียน “8” หลัง ด้วยกัน
เก้า...
...สี่
คณะเทคโนโลยีและการจัดการอุตสาหกรรมมีบัณฑิตที่จบการศึกษาจาก “5“ ภาควิชาด้วยกัน คือ ภาควิชาการจัดการอุตสาหกรรม ภาควิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ภาควิชาเทคโนโลยีการออกแบบผลิตภัณฑ์และจัดการอุตสาหกรรมก่อสร้าง ภาควิชาเทคโนโลยีการ ออกแบบและผลิตเครื่องจักรกลอุตสาหกรรมเกษตร และภาควิชาการจัดการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและโรงแรม
คณะเทคโนโลยีและการจัดการจัดอุตสาหกรรม มุ่งผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพ คุณธรรม และจริยธรรม ทั้งในระดับปริญญาบัณฑิตและ บัณฑิตศึกษาในด้านเทคโนโลยีและการจัดการ ตรงตามความต้องการของอุตสาหกรรมและการพัฒนาทีย่ งั่ ยืนของประเทศ ซึง่ เป็นพันธ กิจข้อแรกใน “6“ พันธกิจหลักของคณะ
เจ็ด...
...สอง
...แปด
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ “9” ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จ พระราชดำ�เนินแทนพระองค์ พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำ�เร็จการศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
บัณฑิตของคณะฯ จาก “10” หลักสูตรเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ประจำ�ปีการศึกษา 2556 จะ มีบัณฑิตของคณะเทคโนโลยีและการจัดการอุตสาหกรรมจากทั้ง 10 หลักสูตร คือจากระดับปริญญาตรี 8 หลักสูตร และจากระดับ ปริญญาโท 2 หลักสูตร เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร
...สิบ FITM NEWS 5
N ot only (teach)
วิธีฮิวริสติกส์
สำ�หรับวางผังโรงงานในระบบผลิตแบบ Flowshop เรื่อง : ดร.อรอุไร แสงสว่าง ภาควิชาการจัดการอุตสาหกรรม
การ ออกแบบและวางผังโรงงานเป็นการวางตำ�แหน่งสถานที่ให้เหมาะสม กับการเคลื่อนย้าย วัสดุให้มีความสอดคล้องกับกระบวนการผลิต ลดระยะทาง
ขนถ่ายวัสดุและเวลาสูญเปล่า โดยเฉพาะระบบการผลิตที่ผลิตสินค้าในปริมาณมาก การเปลีย่ นแปลงระยะทางทีใ่ ช้ในการขนถ่ายวัสดุจงึ มีผลกระทบอย่างสูงต่อเวลาและ ต้นทุนในการผลิต การวางผังโรงงานที่ดีเป็นการวางแผนเพื่อให้ได้ระบบการผลิตที่ มีประสิทธิภาพสมบูรณ์ขึ้น ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาความเหมาะสมของการบริหาร การผลิตที่เกี่ยวกับเครื่องจักร อุปกรณ์การผลิต สถานีงาน หน่วยงานและอาคาร สถานที่ การวางผังโรงงานเป็นสิ่งจำ�เป็นสำ�หรับทุกโรงงานไม่เพียงแต่ในระยะก่อน การตั้งโรงงาน แม้แต่โรงงานที่ทำ�การผลิตมาเป็นระยะเวลานาน ถ้ามีการเพิ่มหรือลด แผนกผลิต, มีเครื่องจักรเพิ่ม, ผลิตภัณฑ์ใหม่, การเปลี่ยนแปลงรูปแบบผลิตภัณฑ์ การวางผังโรงงานที่ดีจึงมีความสำ�คัญต่อระบบการผลิต ทำ�ให้ระบบการผลิต มีประสิทธิภาพสูง ค่าใช้จ่ายในการขนถ่ายวัสดุต่ำ� สร้างสภาพการทำ�งานที่ดีและ เกิดการใช้พื้นที่ให้มีประโยชน์สูง ในการวิจัยนี้เพื่อเสนอวิธีใหม่ในการวางผังโรงงาน R Heuristics ซึ่ง มีลักษณะกระบวนการผลิตในรูปแบบ Flow shop เป็นการผลิตสินค้าที่มีปริมาณสูง และความหลากหลายต่ำ� ในงานวิจัยนี้ได้ทำ�การวิจัยเพื่อวางผังโรงงานประกอบ โทรทัศน์และเตาอบไมโครเวฟ วัตถุประสงค์เพื่อให้ระยะทางในการเคลื่อนที่ระหว่าง แผนกที่มีความสัมพันธ์กันมีค่าต่ำ�ที่สุด (distance – weighted adjacency - based objective) หมายถึงแผนกทีย่ งิ่ มีความจำ�เป็นในการติดต่อกันมากจะต้องอยูใ่ กล้กนั ทีส่ ดุ โดยได้ใช้วธิ ที างคอมพิวเตอร์ชว่ ยวางผังโรงงานเป็นวิธฮี วิ ริสติกเพือ่ ทำ�ให้ผล รวมของความใกล้ชิดคูณระยะทางต่ำ�ที่สุด หรือเพื่อทำ�ให้ระยะทางในการเคลื่อนที่ ระหว่างแผนกที่มีความสัมพันธ์กันต่ำ�ที่สุด โดยพิจารณาทั้งระดับความสัมพันธ์และ ระยะทาง ระดับความสัมพันธ์ประกอบด้วยความสัมพันธ์ระหว่างแผนกซึ่งเหมาะ สมกับข้อมูลที่อยู่ในรูปของแผนภูมิความสัมพันธ์(relationship chart) ในการดำ�เนินการวิจัย เริ่มต้นจากการศึกษารายละเอียดและข้อมูลพื้นฐาน เช่น ประเภทของผลิตภัณฑ์ และปริมาณการผลิต เพือ่ วางผังสายการผลิตในโรงงาน ประกอบโทรทัศน์และเตาอบไมโครเวฟโดยศึกษารายละเอียดของขัน้ ตอนกระบวนการ ผลิต หาความสัมพันธ์ระหว่างกิจกรรมทั้งหมด โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ได้แก่ ความสัมพันธ์เชิงปริมาณ เช่น การไหลของวัสดุ หรือข้อมูลข่าวสารระหว่าง แผนกต่างๆ และความสัมพันธ์เชิงคุณภาพ เช่น ความจำ�เป็นด้านสภาพแวดล้อม ความสะดวกในการทำ�งาน ความปลอดภัย และเสนอขัน้ ตอนวิธแี ก้ปญ ั หา (Algorithm) สำ�หรับการวางผังโรงงานเพือ่ วางผังรวมทัง้ ปรับจัดผังโรงงานสำ�หรับลักษณะข้อมูล ป้อนเข้าพิจารณาจากปริมาณวัสดุที่จำ�เป็นต้องผ่านแต่ละหน่วยผลิตและความ สัมพันธ์ระหว่างแผนก โดยจะเลือกแผนกทีม่ คี า่ ความสัมพันธ์กบั แผนกต่างๆสูงสุด และเลือกแผนกต่อมาจากแผนกที่มีความสัมพันธ์กับแผนกที่เลือกเป็นแผนกแรก สูงสุด จากนั้นจึงพิจารณาแผนกที่มีค่าความสัมพันธ์ในระดับสูง (A, E, I, O และ U ตามลำ�ดับ) เพื่อลดความยุ่งยากในการแปลงแผนภูมิความสัมพันธ์ออกมาเป็นผัง โรงงาน ในกรณีศกึ ษาเป็นการสร้างผังโรงงานใหม่ โดยศึกษาจากกระบวนการผลิต ทีม่ อี ยูเ่ ดิมเป็นข้อมูลอ้างอิงในการสร้างแผนภูมคิ วามสัมพันธ์และปรับจัดเนือ้ ที่ การ วิจัยนี้เป็นการเสนอวิธีฮิวริสติกเชิงประยุกต์วิธีใหม่ โดยแปลงความสัมพันธ์ของ แผนกต่างๆตามกระบวนการผลิตภายในโรงงานให้เป็นผังโรงงานซึง่ มีระยะทางรวม ในการขนถ่ายวัสดุทมี่ คี า่ น้อยโดยอ้างอิงวัตถุประสงค์เพือ่ ให้ระยะทางในการเคลือ่ นที่ ระหว่างแผนกที่มีความสัมพันธ์กันมีค่าต่ำ�ที่สุด 6 FITM NEWS
การวางผังโรงงานด้วยคอมพิวเตอร์สามารถแก้ปัญหาที่มีข้อมูลจำ�นวนมากได้ อย่างรวดเร็ว ใช้งานได้ง่าย ผลลัพธ์ที่ได้จะมีความสอดคล้องตามข้อมูลจาก แผนภู มิ ค วามสั ม พั น ธ์ และสามารถประเมิ น ได้ ซึ่ ง ในการวิ จั ย นี้ ไ ด้ อ้ า งอิ ง วัตถุประสงค์ระยะทางในการเคลื่อนที่ระหว่างแผนกที่มีความ สัมพันธ์กันมีค่าต่ำ�ที่สุด
ตารางที่ 1 การเปรียบเทียบระยะทางที่ได้จากผังโรงงาน
จากการเปรียบเทียบคะแนนจากการประเมินผังโรงงาน พบว่าวิธี R Heuristic ให้ คะแนนดีกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับ CORELAP ซึ่งสอดคล้องกับการใช้ระยะทางใน การขนถ่ายวัสดุลดลง โดยใช้ระยะทางสัน้ กว่าวิธวี างผังแบบ CORELAP 7.83% และ ใช้ระยะทางสัน้ กว่าการวางผังโรงงานแบบเดิม 15% ซึง่ การวางผังโรงงานด้วยวิธี ฮิวริสติกสามารถทำ�ได้รวดเร็วและให้ผลลัพธ์ทนี่ า่ พอใจ ซึง่ เมือ่ ประยุกต์เข้ากับการ ใช้คอมพิวเตอร์ ทำ�ให้มีข้อได้เปรียบด้านความถูกต้องและรวดเร็ว แต่ข้อจำ�กัดคือ คอมพิวเตอร์ไม่สามารถปรับจัดผังให้สอดคล้องกับข้อจำ�กัดต่างๆในระบบการผลิต ได้ดี เมื่อเทียบกับผู้ใช้ที่มีความเกี่ยวข้องกับระบบผลิตนั้นเป็นประจำ� ดังนั้นควร มีการพัฒนาระบบผู้เชี่ยวชาญเข้ากับการวางผังโรงงานโดยใช้คอมพิวเตอร์เพื่อ ลดข้อจำ�กัดดังกล่าว >> ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อที่ :
[email protected]
E xtraordinary
ประสบความสำ�เร็จ... ก่อนจบ
“ปริญญาตรี”
การศึกษาก็เป็นสิ่งที่สำ�คัญ โลกทุกวันนี้เต็มไปด้วยการแข่งขัน แข่งขันกันสร้าง แข่งขันการทำ� แข่งขันการมีความรู้ หากเราไม่ได้มีการศึกษา คงตกขบวน ตามคนอื่นเขาไม่ทันแน่นอนครับ โลกยุคนี้ก็เป็นยุค “โลกาภิวัตร์” มีเทคโนโลยีมากมายที่เอื้อต่อการ “การศึกษา” ทั้งคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต แท๊บเล็ต ล้วนแต่ เป็นสิ่งที่จะส่งเสริมให้การศึกษาเข้าถึงคนได้มากยิ่งขึ้น ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีระบบการศึกษาแย่เกือบที่สุดของโลก เพราะระบบการศึกษาไทยนั้น ไม่ได้ส่งเสริมให้เด็ก “คิด” แต่สงเสริมให้เด็กจำ� จำ�เป็น “นกแก้ว นกขุนทอง” ครูสอนอะไร ก็ตามๆไป ห้ามเถียง ตอนสอบ ก็แค่ท่องๆ ใครความจำ�ดีก็ได้ที่ 1 แต่คนฉลาดกับความจำ�ดีนั้น ช่างแตกต่างกันเป็นแน่แท้ ระบบ เหล่านี้ที่มันฝังจำ�มานาน จนทำ�ให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีคาบเรียนมากที่สุด แต่มีผลสัมฤทธิ์สวนทางกับคาบเรียน ระบบการศึกษาไทยปัจุบันไม่ค่อยเอื้อให้เด็กลงมือทำ�ในสิ่งที่ตัวเองสนใจ แต่เอื้อให้ทำ�ตามครูซะมากกว่า เด็กจะคิดอะไรมายังไงช่าง ถ้าไม่ถูกใจครู ไม่ได้ คะแนน สอบตก ไม่จบ… ประเทศไทยก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่ยึดติดกับค่านิยม “ปริญญาตรี” คือจะทำ�อะไรก็ช่าง ต้องจบปริญญาตรีไว้ก่อนถึงจะรับเข้างาน สมัคร โน่น ขอวุฒิปริญญาตรี สมัครนั่นก็ขอวุฒิปริญญาตรี โดยไม่ได้คำ�นึงถึงความสามารถเฉพาะด้านของแต่ละคน บางคนจบปริญญาตรีสาขาคอม แต่ซ่อมคอมไม่เป็น ก็มี แต่บางคนไม่ได้จบปริญญาตรีสาขาคอม แต่ซ่อมคอมเป็น แต่ถ้าถามว่า 2 คนนี้ใครจะได้งาน แน่นอนว่าคนจบปริญญาตรีได้ก่อน เพราะฉะนั้นเราจะไม่ค่อยเห็นเด็กไทยที่ประสบความสำ�เร็จ หรือมีโปรเจคในขณะที่เรียนอยู่ ไม่เหมือนกับฝรั่งที่เขาประสบความสำ�เร็จก่อนเรียนจบ เราจะสังเกตุได้จากหลายๆคนดังที่ประสบความ สำ�เร็จโดยไม่ต้องไปจบปริญญาตรี เช่น “บิล เกต” เจ้าของ “ไมโครซอฟ” ที่เราๆท่านๆก็ใช้ของเขากันอยู่ ทุกๆวัน เขาคนนี้ก็ไม่ได้จบปริญญาตรี แต่ก็ประสบความสำ�เร็จในชีวิต ร่ำ�รวยติดอันดับของโลก
“สตีฟ จ๊อบ” ศาสดาแห่งลัทธิ “Apple” เองก็ไม่ได้จบปริญญาตรี “จ๊อบ” เรียนปริญญาตรี ได้ประมาณ 2 ปี แล้วก็ลาออก เพราะเสียดายเงิน ไม่รู้จะเรียนไปทำ�ไม ก็เลยออกมาตามหาความฝัน ทำ� สิ่งที่ตัวเองอยากทำ� จนประสบความสำ�เร็จ จนเป็นบริษัทอันดับ 1 ของโลกในด้านนวัตกรรม “โทรศัพท์ มือถือ”
“มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก” เจ้าของ “facebook” ซึ่งแน่นอน ชาวออนไลน์อย่างเราๆ ท่านๆ ก็ใช้ อีกนั้นแหละ คนนี้ก็ทำ�เว็บให้มหาวิทยาลัย และพอทำ�โปรเจค “the facebook” พอเริ่มดังก็ลาออกจาก มหาวิทยาลัยมาตั้งบริษัท Facebook inc จนเป็นมหาเศรษฐีที่อายุน้อยที่สุดของโลก
ทั้ง 3 คนที่ถูกกล่าวมานั้นอาจเป็นฝรั่ง แต่คนไทยที่ไม่ได้จบปริญญาตรีแต่ประสบความสำ�เร็จ จะขอยกตัวอย่างสักคนให้ได้อึ้งกัน “ตัน ภาสกรณ์นที” เจ้าของชาเขียวยี่ห้อดัง “อิชิตัน” ผู้ริเริ่มทำ� “หวยชาเขียว” จนติดกัน งอมแงมทั่วประเทศ คนนี้ก็ไม่ได้จบปริญญาตรี จบแค่ม.3 แต่ว่าประสบความสำ�เร็จในชีวิตอย่างยิ่งยวด และเป็นคนที่สู้ชีวิตเป็นอย่างมากครับ ถึงบริษัทจะถูกน้ำ�ท่วมในป 54 แต่ก็ลุกขึ้นมาสู้ ควัก 2,000 ล้าน ตั้งตัวใหม่ และเป้นบุคคลที่ใจบุญมากอีกด้วย บริจาคเงินปันผลในส่วนของคุณตันและคุณอิง(ภรรยาคุณ ตัน) 50 เปอร์เซ็นให้”มูลนิธิตันปัน” เพื่อพัฒนาการศึกษาและสิ่งแว้ดล้อม ทัง้ หมดทัง้ มวลบุคคลทีก่ ล่าวมานัน้ ล้วนแต่ประสบความสำ�เร็จ โดยไม่ตอ้ งจบปริญญาตรี แต่ทงั้ นีแ้ ละทัง้ นัน้ มันก็ขนึ้ อยูก่ บั ตัวท่าน ว่าท่านมีความพยายาม สักแค่ใหน ที่จะทำ�ในสิ่งที่ตัวเองจนประสบความสำ�เร็จ เพราะความสำ�เร็จ “ไม่เคยมาหาใคร แต่อยู่ใครจะหามัน” >> อ้างอิงจาก www.isun.in.th/article/102.html
FITM NEWS 7
W ho What Where When >> นักศึกษาสาขาการจัดการอุตสาหกรรมการท่องเทีย่ วและการโรงแรมสามารถคว้า รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 (รางวัลที่ 2) โครงการสร้างและพัฒนาเยาวชน “My Spa” โดยกิจกรรมการแข่งขันระดับชาติที่จัดขึ้นในงาน World Spa & Wellbeing Convention 2013 ระหว่างวันที่ 20-21 กันยายน 2556 ณ อาคาร 4 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี กรุงเทพมหานคร มีอาจารย์ผู้รับผิดชอบโครงการและควบคุมทีมเข้าแข่งขัน ได้แก่ อาจารย์มณีรัตน์ สุขเกษม และอาจารย์วรพรรณ แดงพุธทางกูร อาจารย์ประจำ�ภาควิชาการจัดการ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการโรงแรม >> เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2556 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ วิทยาเขต ปราจีนบุรี ได้ดำ�เนินการจัดกิจกรรมเพื่อการพัฒนาเครือข่ายการวิจัยในสถานประกอบการ “วิจัย ปริทรรศน์ วาระ 1” ณ โรงแรมวิลล่าวิชชาลัย ซึ่งเป็นการประชุมเชิงสร้างสรรค์ และเปิดเป็นเวที สาธารณะในการแลกเปลีย่ น เรียนรู้ โดยมีกจิ กรรมงานประชาเสวนาเชิงสร้างสรรค์เรือ่ ง “ชีวพลังงาน สัญชาติ “ไทย” : พลังงานทดแทนใกล้ๆตัว และได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ รอง ศาสตราจารย์ ดร. จันทรพร ผลากรกุล จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี พระจอมเกล้าพระนครเหนือ ดร. ไกรลาศ เขียวทอง นักวิชาการสัตวบาลชำ�นาญการพิเศษ ศูนย์วจิ ยั และพัฒนาอาหารสัตว์นครราชสีมา ดร.ธัญญา ปรเมษฐานุวัฒน์ จากคณะเทคโนโลยีและการจัดการ อุตสาหกรรม มจพ. วิทยาเขตปราจีนบุรี คุณชาญชัย กลับชุ่ม พลังงานจังหวัดอุทัยธานี ระดับ วิศวกรชำ�นาญการพิเศษ มาร่วมเสวนาในงานครั้งนี้ด้วย << เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2556 คณะเทคโนโลยีและการจัดการอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ได้ทำ�บันทึกข้อตกลงความ ร่วมมือทางวิชาการเพื่อพัฒนาการศึกษา การวิจัยและการบริการวิชาการของ ทั้ ง สองหน่ ว ยงาน ระหว่ า งมู ล นิ ธิ รั ก ษ์ ไ ทย และมหาวิ ท ยาลั ย เทคโนโลยี พระจอมเกล้าพระนครเหนือ โดยมุ่งหวังให้เกิดการเรียนรู้และพัฒนา เสริมสร้าง ความเข้มแข็งให้กบั ชุมชน ทัง้ ยังตอบสนองนโยบายของรัฐบาล ซึง่ มียทุ ธศาสตร์ การจัดการ สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนเป็นยุทธศาสตร์หลักในการพัฒนาประเทศ อีกด้วย >> เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2556 คณะเทคโนโลยีและการจัดการอุตสาหกรรม นำ�โดยอาจารย์ฌานนท์ ปิ่นเสม รองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา ได้นำ� หนังสือสือเรียนจำ�นวน 510 เล่ม ที่ได้รับบริจาคจากบุคลากรและนักศึกษา ของมหาวิทยาลัย ไปมอบให้น้องๆ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ ค่าย พรหมโยธี จ.ปราจีนบุรี โดยตัวแทนเจ้าหน้าทีจ่ ะนำ�หนังสือส่งให้ถงึ มือน้องๆ ต่อไป
<< ภาควิชาการจัดการอุตสาหกรรมการท่องเทีย่ วและการโรงแรม และฝ่ายกิจการนักศึกษา คณะ เทคโนโลยีและการจัดการอุตสาหกรรม ได้ร่วมกันจัดโครงการศิลปวัฒนธรรม ๔ ภาค ประจำ� ปีการศึกษา ๒๕๕๖ ขึ้น เมื่อวันอังคารที่ ๓ กันยายน ๒๕๕๖ ที่ผ่านมา เพื่อเผยแพร่ความรู้ เกี่ ย วกั บ ศิ ล ปะและวั ฒ นธรรมของไทย เทศกาลประเพณี ไ ทย สถานที่ ท่ อ งเที่ ย วด้ า น ศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ อาหารประจำ�ภูมิภาค และศิลปะการแสดงแต่ละภูมิภาคของ ไทย ซึ่งบรรยากาศในงานเป็นไปด้วยความสนุกสนาน มีการเข้าร่วมโครงการจากนักศึกษาและ บุคลากรของคณะฯ เป็นจำ�นวนมาก >> ภาควิชาเทคโนโลยีการออกแบบผลิตภัณฑ์และจัดการอุตสาหกรรมก่อสร้าง ได้เข้าร่วมการ แข่งคอนกรีตมวลเบาระดับอุดมศึกษา ครั้งที่ 7 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราช สุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ระหว่างวันที่ 4- 6 กันยายน พ.ศ. 2556 ณ มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตวังไกลกังวล อำ�เภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรขี นั ธ์ โดยมีสถาบันการศึกษาในประเทศเข้าร่วมการแข่งขันจำ�นวน 29 สถาบัน สำ�หรับครัง้ นีท้ างภาค วิชาได้ส่งนักศึกษาเข้าร่วมแข่งขันจำ�นวน 12 คน โดยมี อ.สุบรรณ ตาคำ�วัน อ.สุรพงษ์ ดารามและ อ.สุรัตน์ ศรีจันทร์ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา สามารถคว้ารางวัลชมเชยอันดับสองใน ประเภทคอนกรีตมวลเบาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมรับโล่รางวัลและใบประกาศเกียรติคุณ 8 FITM NEWS